Loading…

Trick-Or-Treat!! ...ส่งฟักทองมาซะดีๆ นะ

Trick-Or-Treat!! ...ส่งฟักทองมาซะดีๆ นะ

กฤติยา ไชยนอก สำนักงานข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

27,154 ครั้ง เมื่อ 8 ช.ม.ที่แล้ว
2013-11-06

เมื่อย่างเข้าปลายเดือนตุลาคม เทศกาลที่ต้องได้รับการกล่าวขวัญถึงคงหนีไม่พ้น “เทศกาลฮาโลวีนนนน...” ใช่แล้ว...วันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีคือวันฮาโลวีนไงล่ะ... 
ฮาโลวีนเป็นเทศกาลของชาวตะวันตกที่เด็กๆ จะได้สนุกสนานกับการแต่งตัวเป็นคุณผีทั้งหลาย แล้วก็ออกไปตามบ้านต่างๆ เพื่อขอขนม ลูกอม หรือบางครั้งก็เป็นเงิน โดยการกล่าวคำว่า Trick-Or-Treat!!...ความหมายก็คือ หากเจ้าของบ้านไม่ทำการ 'Treat' หรือก็คือการมอบสิ่งของตามที่เด็กๆ ร้องขอละก็ เป็นต้องโดนก่อกวน หรือ 'Trick' แน่ๆ ซึ่งประวัติความเป็นมา หรือรูปแบบการละเล่นของแต่ละพื้นที่ก็สามารถหาอ่านได้จากหนังสือหรือ website ทั่วไป แต่ประเด็นที่เราจะมาพูดถึงในตอนนี้ ไม่ใช่ว่าเราจะมาเชิญชวนให้ท่านทั้งหลายออกไป “Trick-Or-Treat” ชาวบ้านชาวช่องเขาหรอกนะ (ยิ่งน้ำท่วมๆ แบบนี้ด้วย คนที่จะโดน 'Trick' ท่าทางจะเป็นคนที่ไปขอ 'Treat' ซะมากกว่า) แต่เรากำลังจะพูดถึงเจ้า 'ฟักทอง' ที่มักจะถูกนำมาแกะสลักเป็นโคมไฟ หรือที่เรียกว่า แจ๊ก-โอ'-แลนเทิร์น (jack-o'-lantern) เพื่อนำไปประดับตามบ้านหรือตามทางเดินในวันฮาโลวีนต่างหากล่ะ... 
ฟักทอง (Pumpkin) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cucurbita pepo L. อยู่ในวงศ์ CUCURBITACEAE ไม่ว่าชาติไหนก็นิยมนำมาทำอาหารทั้งคาวหวาน เนื่องจากมีรสชาติที่หอมหวานอร่อย เนื้อของฟักทองอุดมไปด้วยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามินซี วิตามินอี ไนอาซิน (วิตามินบี 3) แมกนีเซียม โปแตสเซียม เซเลเนียม สังกะสี และเหล็ก นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งสำคัญของสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ (carotenoids) ชนิดต่างๆ ที่เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนไปเป็นวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาและผิวพรรณ ฟักทองจึงจัดเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับผู้ที่ขาดวิตามินเอ และในเนื้อของฟักทองมีกากใยอาหารมาก จึงช่วยให้ระบบย่อยอาหารของร่างกายทำงานดีขึ้น เมล็ดฟักทองสามารถนำมาทำเป็นของขบเคี้ยวสำหรับทานเล่น ที่เมื่อเริ่มกินแล้วหยุดกันไม่ค่อยอยู่จริงๆ แถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูงอีกต่างหาก เพราะในเมล็ดฟักทองมีทั้งน้ำมัน แป้ง โปรตีน วิตามิน และยังเป็นแหล่งของธาตุฟอสฟอรัส ที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง รวมทั้งช่วยรักษาสมดุลของกรดและด่างภายในร่างกายอีกด้วย 
การศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่า สารเบต้าแคโรทีนในเนื้อสีเหลืองของฟักทองมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และมีฤทธิ์ต้านเซลล์มะเร็งหลายชนิด การศึกษาเปรียบเทียบความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งโดยพิจารณาถึงการใช้ชีวิตและอาหารการกินระหว่างคนที่เป็นมะเร็งและคนปกติพบว่า ผู้ที่มักจะรับประทานผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารแคโรทีน (carotene-containing vegetable) เช่น แครอท ฟักทอง มะเขือเทศ กะหล่ำ ผักกาด และผักใบเขียวอื่นๆ เป็นประจำ จะมีความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร ลำไส้ ปอด และเต้านมลดลง การศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่า ฟักทองสามารถเพิ่มระดับอินซูลินในเลือด ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลง นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ลดความดันโลหิต แก้ปวด บรรเทาการอักเสบ กระตุ้นการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกันของร่างกาย แก้ท้องเดิน ช่วยให้ผิวพรรณชุ่มชื้น และช่วยชะลอความแก่ 
การศึกษาในเมล็ดฟักทองก็พบฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาที่สำคัญไม่แพ้กัน โดยพบว่าสารคิวเคอร์บิตาซิน (cucurbitacins) ในเมล็ดฟักทอง มีประสิทธิภาพในการต้านมะเร็งและเสริมฤทธิ์กับยาแผนปัจจุบันที่ใช้รักษามะเร็ง เช่น ดอกโซรูบิซิน (doxorubicin) เจ็มซิทาบีน (gemcitabine) เมื่อทำการศึกษาในเซลล์มะเร็ง นอกจากนี้เมล็ดฟักทองยังมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์บรรเทาอาการอักเสบ กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวในเมล็ดฟักทองมีฤทธิ์ลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด อีกทั้งยังช่วยปกป้องเซลล์ตับด้วย การศึกษาทางคลินิกพบว่าสารสกัดจากเมล็ดฟักทองมีฤทธิ์ในการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตโดยไม่ทำให้เกิดอาการที่ไม่พึงประสงค์ในคนไข้เกือบทั้งหมด และงานวิจัยในประเทศไทยพบว่า การรับประทานขนมที่ทำจากเมล็ดฟักทองสามารถป้องกันและรักษาโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ ฤทธิ์สำคัญอีกประการหนึ่งของเมล็ดฟักทองคือฤทธิ์ขับพยาธิ โดยพบว่าเมล็ดฟักทองสดและเมล็ดฟักทองคั่วสามารถใช้ขับพยาธิในลำไส้ได้ การวิจัยทางคลินิกพบว่าเมล็ดฟักทองขนาด 23 ก. ในน้ำกลั่น 100 มล. มีสรรพคุณขับพยาธิได้ดี ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของฟักทอง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในจุลสารข้อมูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ฉบับปีที่ 8(3) และ 27(4) 
เอาละ...ในเมื่อรู้ถึงคุณประโยชน์อันมากมายของคุณพี่ฟักทองกันแล้ว วันฮาโลวีนที่จะถึงนี้ หากใครยังไม่มีกิจกรรมที่ไหน เราขอเสนอกิจกรรมการทำเมนูฟักทอง ไม่ว่าจะเป็น...แกงบวดฟักทอง น้ำฟักทอง ฟักทองนึ่ง สังขยาฟักทอง ฟักทองผัดไข่ หรือเมนูอื่นๆ แล้วแต่ความสร้างสรรค์ของแต่ละท่าน มาทำทานกันเองในครอบครัวให้มันอบอุ่นๆ และเข้ากับเทศกาลกันดีกว่าเนอะ…ขอให้ทุกท่านสนุกสนานกับเทศกาลฮาโลวีนค่ะ 
Happy Halloween!!

แหล่งอ้างอิง/ที่มา
  1. Grabenstein John D. ImmunoFacts : Vaccines and Immunologic Drugs-2010. St. Louis, Mo.: Wolters Kluwer Health; 2009.
  2. HPV and Cancer. National Cancer Institute; [cited 2013 June 9]; Available from: http://www.cancer.gov/cancertopics/factsheet/Risk/HPV#r6.
  3. Human Papillomavirus (HPV) Vaccines. National Cancer Institute; [cited 2013 June 9]; Available from: http://www.cancer.gov/cancertopics/factsheet/Prevention/HPV-vaccine.
  4. วัคซีน : การวิจัยพัฒนา การผลิต การควบคุมคุณภาพ และการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค. จรุง เมืองชนะ, สมฤดี จันทร์ฉวี, บรรณาธิการ. นนทบุรี: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก; 2555.

-->

บทความที่ถูกอ่านล่าสุด

น้องแมวนำโรค!! ทาสแมวต้องระวัง 1 วินาทีที่แล้ว
ยาเม็ดคุมกำเนิด : ข้อควรระวังเมื่อใช้ร่วมกับยาอื่นที่รบกวนประสิทธิภาพและความปลอดภัย 1 วินาทีที่แล้ว
กลูต้าไธโอน (glutathione) ทำให้ขาวจริงหรือ?? 9 วินาทีที่แล้ว
อันตรายจากสารไนเตรต-ไนไตรต์ 27 วินาทีที่แล้ว
ความรู้เรื่องคลื่นรังสี ตอนที่ 1 37 วินาทีที่แล้ว
การดูแลสุขภาพด้วยการแพทย์ทางเลือก (ตอนที่ 3) 38 วินาทีที่แล้ว
ยารักษาโรคเชื้อราที่เล็บ 39 วินาทีที่แล้ว
มะเร็งยูเวีย หรือมะเร็งผนังลูกตาชั้นกลาง 39 วินาทีที่แล้ว
สัตว์เลี้ยงกับยา 40 วินาทีที่แล้ว
กวาวเครือขาว 49 วินาทีที่แล้ว

อ่านบทความทั้งหมด

เกี่ยวกับคณะเภสัชศาสตร์
คลังความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน บทความความรู้สู่ประชาชน

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด

ความสำเร็จของวิชาชีพเภสัชกรรม เกิดจากความรู้ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคยา มีการเสี่่ยงต่ออันตรายจากยาที่ใช้ให้น้อยที่สุด แต่ได้รับผลในการป้องกัน หรือบำบัดโรคมากที่สุด
ประดิษฐ์ หุตางกูร
คณบดีท่านแรกของคณะเภสัชศาสตร์

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล

447 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400
Copyright © 2021 - 2025
งานเทคโนโลยีสารสนเทศฯ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล
การใช้และการจัดการคุกกี้
เราใช้เทคโนโลยีคุกกี้เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างถูกต้อง การเปิดให้ใช้คุณสมบัติทางโซเชียลมีเดีย และเพื่อวิเคราะห์การเข้าเว็บไซต์ของเรา