อ่านแล้ว 1,826 ครั้ง
ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2563
เมื่อวันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2563 เวลา 13.00-14.00 น. คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าร่วมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 4 อาคารศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ภญ.สุวัฒนา จุฬาวัฒนทล คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ภก.วิชิต โนสูงเนิน รองคณบดีฝ่ายการศึกษา ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการดังกล่าวร่วมกับ ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิงจิรายุ เอื้อวรากุล รองอธิการบดีวิทยาลัยวิทยาศาสตร์การแพทย์เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และคณบดีคณะแพทยศาสตร์และการสาธารณสุข โดยมีบุคลากรจากทั้งสองหน่วยงานเข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีนี้ด้วย
ความร่วมมือทางวิชาการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมการศึกษาระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษาในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์ 2) เพื่อร่วมกันพัฒนาและผลิตเภสัชศาสตรบัณฑิตในการตอบสนองความต้องการด้านเภสัชกรรมขององค์กร 3) เพื่อพัฒนางานด้านเภสัชศาสตร์ ทั้งในด้านการบริบาลผู้ป่วยและด้านการผลิตเภสัชภัณฑ์เพื่อความเป็นเลิศ 4) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการฝึกปฏิบัติงานทางเภสัชศาสตร์ทั้งในระดับทั่วไปและระดับเฉพาะทาง 5) เพื่อสนับสนุนความร่วมมือทางวิชาการผ่านโครงการพิเศษตามหลักสูตรเภสัชศาสตรบัณฑิตและงานวิจัย อันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์ในการพัฒนาวิชาชีพเภสัชกรรม 6) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการพัฒนาทางวิชาการ การบริการ การวิจัย และการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ของทั้งสององค์กร และ 7) เพื่อส่งเสริมการร่วมกันดำเนินกิจกรรมอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสององค์กร อาทิ การวิจัยและการบริการวิชาการ โดยความเห็นชอบจากทั้งสององค์กร และไม่ขัดต่อกฎและระเบียบซึ่งทั้งสององค์กรผูกพัน
ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เห็นพ้องต้องกันและตระหนักถึงความสำคัญของความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน การจัดการศึกษา และการวิจัยทางการแพทย์และเภสัชศาสตร์ โดยการสร้างเสริมประสบการณ์จริงผ่านระบบการฝึกงานในหลักสูตรระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษา เพื่อให้นักศึกษาและบุคลากรมีโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตนเอง และสามารถประยุกต์และต่อยอดองค์ความรู้ทางวิชาการไปสู่การปฏิบัติงานจริง ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างและพัฒนาทักษะในการปฏิบัติงาน สามารถตอบสนองความต้องการของงานด้านเภสัชกรรมทุกแขนงในประเทศไทย รวมทั้งส่งเสริมให้ระบบยาของประเทศไทยพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง ยั่งยืน และสามารถแข่งขันได้ในระดับสากล
Photo Gallery