คำตอบ
ปัจจุบันสามารถแบ่งประเภทการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเป็น 2 กลุ่ม ใหญ่ คือ
1. ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีเมื่อเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งมีภูมิคุ้มกันเจริญเต็มที่แล้ว อาการมักเป็นแบบเฉียบพลัน ตัวไวรัสที่ได้รับเข้าไปไม่ได้ทำให้เกิดพยาธิสภาพต่อตับโดยตรง แต่กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้มาทำลายเซลล์ตับซึ่งมีไวรัสอาศัยอยู่ ซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้ต้องการการรักษาแบบประคับประคองเท่านั้น เมื่อติดตามไปจะหายขาดได้ จะพบ HBsAg หายไป และเกิด Anti-HBs ขึ้นมา และมีส่วนน้อยที่จะพัฒนาไปเป็นตับวายรุนแรง
2. ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสตั้งแต่แรกเกิด โดยได้รับเชื้อมาตั้งแต่ตอนเด็ก ที่ภูมิคุ้มกันไม่เจริญเติมที่ ผู้ป่วยกลุ่มนี้จะไม่มีอาการ แต่เชื้อไวรัสยังคงสะสมอยู่ทำให้มีการติดเชื้อเรื้อรัง และประมาณ 25-30% ของผู้ป่วยจะพัฒนาไปเป็นตับแข็ง โดยหากไวรัสมีการเพิ่มจำนวนอยู่ตลอดเวลาร่วมกับการที่ตับมีการอักเสบและถูกทำลายเป็นระยะเวลานานจากการติดเชื้อไวรัสจะทำมีการดำเนินไปสู่ตับแข็งและมะเร็งตับได้
จากข้อมูลที่ผู้ถามระบุมานั้นไม่เพียงพอที่จะประเมินประเภท ความรุนแรงหรือระยะของการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี แต่จากข้อมูลข้างต้นพบว่าการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี จะทำให้เกิดพยาธิสภาพที่ตับขึ้น แต่บางครั้งการที่เอนไซม์ตับไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นอาจเนื่องจากยังไม่อักเสบรุนแรงเพียงพอ แต่ก็มีโอกาสที่จะพัฒนาไปเป็นแบบที่มีความรุนแรงขึ้นได้ ดังนั้นแล้วผู้ป่วยโรคตับอักเสบบีจึงควรหลีกเลี่ยง alcohol หรือสารที่มีผลทำลายตับเนื่องจากจะยิ่งเสริมการทำลายเนื้อตับ เสริมการเกิดพยาธิสภาพที่ตับ และ alcohol เองก็มีส่วนทำให้เกิดตับอักเสบหรือตับแข็งได้ด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว กลไกของ alcohol ต่อตับแบบเข้าใจง่ายๆ คือเมื่อร่างกายได้รับ alcohol แล้วจะเกิดกระบวนการเผาผลาญ ซึ่งอวัยวะที่ทำหน้าที่หลักก็คือตับ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวทำให้เกิดสาร acetaldehyde หรือสารพิษตัวอื่นที่มีทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อเซลล์ตับได้ และนอกจากนี้ alcohol ยังเพิ่มการสะสมของไขมันที่ตับ ซึ่งในที่สุดทำให้นำไปสู่การเกิดภาวะตับอักเสบและตับแข็งได้
ส่วนกรณี Essentiale® และ Legalon® มีข้อบ่งใช้ในผู้ป่วยที่มีความผิดปกติเกี่ยวกับการทำงานของตับ โดยทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์นี้สามารถใช้ร่วมกันกับการรักษาหลักในกรณี ตับอักเสบเฉียบพลันและและตับอักเสบเรื้อรัง และสามารถอ่านเพิ่มเติมจาก link นี้
https://pharmacy.mahidol.ac.th/dic/QA_full.php?id=2260
ดังนั้นแล้วในกรณีของผู้ถาม ถึงแม้ในปัจจุบันภาวะไวรัสตับอักเสบจะยังตรวจไม่พบการอักเสบของตับ หรือการกำเริบ แต่ก็มีโอกาสที่จะพัฒนารุนแรงขึ้น ซึ่งเครื่องดื่ม alcohol เป็นสารหนึ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาของโรคไปเร็วยิ่งขึ้น การรับประทาน Essentiale® และ Legalon® เป็นการใช้ยาเพื่อรักษาที่ปลายเหตุเป็นการลดกระบวนการทำลายตับ แต่ไม่ได้เป็นยาที่รักษาที่ต้นเหตุหรือมีผลต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบี หากมีกำลังทรัพย์เพียงพอแต่ก็อาจซื้อหามารับประทานได้ โดยจะเลือกเป็นตัวใดก็ได้ แต่วิธีที่ดีที่สุดแนะนำให้ผู้สอบถามควรงดการดื่มเครื่องดื่ม alcohol โดย alcohol ไม่เพียงมีผลเสียต่อตับ แต่ยังมีผลเสียอย่างอื่นอีกมากมาย เช่น การควบคุมสติสัมปชัญญะ โรคหลอดเลือดสมอง ความบกพร่องทางสติปัญญา โรคมะเร็ง การอักเสบของทางเดินอาหาร โรคทางจิตประสาท และการเสื่อมของสมรรถภาพทางเพศ
Key words: alcohol, viral hepatitis B, essentiale, legalon, ไวรัสตับอักเสบบี, แอลกอฮอลล์
Reference:
1. จินดารัตน์ เจียเจษฎากุล. Chronic hepatitis B. ใน: จันทราภา ศรีสวัสดิ์, ประเจษฎ์ เรืองกาญจนเศรษฐ์, ธนะพันธ์ พิบูลย์บรรณกิจ, วิชัย ประยูรวิวัฒน์. การดูแลผู้ป่วยนอกทางอายุรศาสตร์. กรุงเทพฯ: นำอักษรการพิมพ์; 2552. หน้า 113-23.
2. http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/dic/QA_full.php?id=2260
Keywords:
-