FDA เตือนผู้ใช้ Testosterone gel (AndroGel 1% และ Testim 1%) ให้ระวังยาสัมผัสถูกผู้อื่น
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 3 เดือน พฤษภาคม ปี 2552 -- อ่านแล้ว 37,460 ครั้ง
องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาแจ้งให้ผู้ผลิต Testosterone gel (AndroGel 1% และ Testim 1%) ให้ข้อมูลในเอกสารกำกับยาเพื่อเตือนผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีรายงานอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาโดยทำให้เด็กได้รับยาโดยไม่ได้ตั้งใจจากการสัมผัสถูกผู้ที่ทาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ เจลเหล่านี้ได้รับอนุมัติให้ใช้ในผู้ชายที่มีการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนในปริมาณน้อยถึงน้อยมาก ทาวันละครั้ง บริเวณบ่าหรือต้นแขน มีเพียงผลิตภัณฑ์ AndroGel 1% เท่านั้นที่ได้รับอนุมัติให้ทาบริเวณหน้าท้อง ข้อควรระวังที่ได้แนะนำแก่ผู้ใช้คือให้ผู้ใช้ล้างมือหลังจากใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้และสวมเสื้อผ้าปกคลุมบริเวณที่ทายา ข้อมูลในปี 2550 พบว่ามีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ AndroGel ในสหรัฐอเมริกาประมาณ 1.4 ล้านใบสั่งยา ในจำนวนนี้ ใช้ในข้อบ่งใช้ที่ไม่รับการอนุมัติและเป็นเพศหญิงประมาณ 25,000 ใบสั่ง และในช่วงเวลาเดียวกันนี้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Testim ถึงประมาณ 370,000 ใบสั่งยาด้วย วันที่ 1 ธันวาคม 2551 องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาได้รับรายงานว่ามีเด็กจำนวน 8 ราย อายุ 9 เดือนถึง 5 ปีได้รับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ได้ตั้งใจจากการสัมผัสถูกผู้ที่ทาผลิตภัณฑ์เหล่านี้ โดยอาการไม่พึงประสงค์ที่ปรากฏต่อเด็กเหล่านี้ได้แก่ การมีอวัยวะเพศที่โตผิดปกติ (องคชาติหรือคลิตอริส) การมีขนขึ้นบริเวณอวัยวะเพศก่อนวัย มีการเจริญเติบโตของกระดูก มีความต้องการทางเพศรวมถึงมีพฤติกรรมก้าวร้าว อาการและอาการแสดงเหล่านี้จะลดลงเมื่อผู้ป่วยไม่ได้สัมผัสกับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนอีก อย่างไรก็ตามอวัยวะเพศที่มีขนาดโตผิดปกติและกระดูกที่มีการเติบโตไปแล้วจะไม่สามารถกลับคืนสู่สภาพเดิมที่มีขนาดเหมาะสมกับอายุเด็กได้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว องค์การอาหารและยาจึงให้ผู้ผลิตตระหนักถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นและได้ให้ข้อควรระวังแก่ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ดังนี้
• ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ควรล้างมือด้วยน้ำสบู่หลังจากใช้ยาทุกครั้ง
• ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ควรสวมเสื้อผ้าปกคลุมบริเวณที่ทายาทันทีที่ยาแห้ง
• ผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ควรล้างบริเวณที่ทายาด้วยน้ำสบู่ก่อนสัมผัสกับผิวหนังบุคคลอื่น
• เด็กและผู้หญิงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับบริเวณที่มีการทายาของผู้ป่วย