พบภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ในคนที่ใช้ยาบางกลุ่ม
ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 5 เดือน มิถุนายน ปี 2555 -- อ่านแล้ว 2,495 ครั้ง
Dr. Susan A พบความสัมพันธ์ของการใช้ยาบางกลุ่มซึ่งเป็นยาที่ใช้ทั่วไปกับการเกิดภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ (Urinary incontinence) จากการศึกษาทางระบาดวิทยาแบบตัดขวางในคนมากกว่า 5,500 คน อายุระหว่าง 30-79 ปี ซึ่งพบภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ 9% ในผู้ชายและ 4.6% ในผู้หญิง โดยคนกลุ่มนี้มีอายุมากกว่าคนที่ไม่เกิดภาวะดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อวิเคราะห์โดยตัดปัจจัยเสี่ยงที่เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ออก พบว่าความชุกของการเกิดภาวะดังกล่าวมากสุดในผู้หญิงที่ใช้ยาแก้แพ้กลุ่มต้านฮีสตามีน (28.4%) และยาลดความดันกลุ่ม Angiotensin II receptor blocker หรือ ARB (22.9%) (OR เท่ากับ 1.75 และ 2.07 ตามลำดับ) นอกจากนั้นยังพบความสัมพันธ์ดังกล่าวในผู้ที่ใช้ยากลุ่ม beta receptor agonist (OR 1.73) ฮอร์โมนเอสโตรเจน (OR 1.9) และยากันชัก (OR 1.75) ในขณะที่ผู้ชายจะพบความชุกของการเกิดภาวะดังกล่าวมากสุดในกลุ่มที่ใช้ยาลดความดันโลหิตกลุ่ม ARB (22.2%) และยาขับปัสสาวะกลุ่ม loop diuretic (19.1%) แต่เมื่อวิเคาระห์ขั้นสุดท้ายโดยการปรับปัจจัยเสี่ยงทั้งหมดพบความสัมพันธ์ดังกล่าวเฉพาะการใช้ยากันชัก (OR 2.5) อย่างไรก็ตามจากรูปแบบการศึกษานี้ยังไม่สามารถยืนยันถึงความเป็นเหตุเป็นผลกันของความสัมพันธ์ดังกล่าวได้ควรจะต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป