ท้องเสียเป็นมูกเลือดอยู่3วันกินnorfloxacinอาการก็ยังแย่ลงเลยไปหาหมอ วินิจฉัยว่าติดเชื้อในกระแสเลือด ทำไมหมอถึงจ่ายยาceftriaxoneโดยไม่ดูผลแลปเลย แล้ว norfloxacin กับ ceftriaxone ออกฤทธิ์ต่างกันยังไง

คำตอบ

อาการท้องเสียที่มีมูกเลือดปนมักเกิดจากการติดเชื้อ เช่น Escherichia coli, Shigella หรือ Salmonella spp. ในลำไส้ ซึ่งการติดเชื้อนี้อาจลุกลามเข้าสู่กระแสเลือดซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงและก่อให้เกิดภาวะช็อคได้หากได้รับยาปฏิชีวนะไม่เหมาะสมหรือล่าช้า ดังนั้นการรักษาเบื้องต้นสำหรับภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดมักจะใช้ยาฉีดเพื่อให้ได้ระดับยาในเลือดเพียงพอสำหรับฆ่าเชื้อได้ทันที ซึ่ง ceftriaxone เป็นยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียโดยการทำลายผนังเซลล์ของเชื้อ ต่างจาก norfloxacin ที่จะยับยั้งการจำลองดีเอ็นเอ (DNA replication) ทำให้แบคทีเรียไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ และ ceftriaxone สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของอาการท้องเสียดังกล่าวข้างต้นได้ดี รวมถึงยานี้ไม่จำเป็นต้องปรับขนาดยาตามค่าการทำงานของไต ดังนั้นในเบื้องต้นหากแพทย์ซักประวัติแล้วว่าไม่มีประวัติที่อาจติดเชื้อดื้อยา ไม่มีประวัติแพ้ยาที่เกี่ยวข้อง จึงอาจสั่งตรวจแลปที่จำเป็นพร้อมกับตัดสินใจให้ ceftriaxone ไปก่อนระหว่างรอผลแลปเพื่อฆ่าเชื้อให้เร็วและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะช็อค ร่วมกับการประเมินอย่างใกล้ชิดเพื่อการปรับเปลี่ยนยาปฏิชีวนะในกรณีที่จำเป็น อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจใช้ยามีปัจจัยที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมากและแตกต่างกันไปในผู้ป่วยแต่ละราย หากระหว่างการรักษามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการรักษาสามารถสอบถามแพทย์หรือบุคลากรทีมรักษาโดยตรง จะได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุด

Reference:
1. Sureshbabu J. Shigella Infection Medication. Drugs & Diseases Medscape. [internet]. 2023 [cited 2023 Jun 26]. Available from: https://emedicine.medscape.com/article/968773-medication#:~:text=The%20following%20antibiotics%20are%20used,%2C%20cipro%EF%AC%82oxacin%2C%20nor%EF%AC%82oxacin%2C%20and%20o%EF%AC%82oxacin
2. Stewart R. Bloody Diarrhea and an Elusive Toxin. Medscape Pathology [internet]. 2011 [cited 2023 Jun 26]. Available from: https://www.medscape.com/viewarticle/753064_2

Keywords:
ท้องเสียเป็นมูกเลือด, norfloxacin, ceftriaxone