หนูเป็นประจำเดือนได้ 4 วันแต่วันที่ 5 เป็นวันที่ต้องเริ่มยาคุมแผงใหม่แต่พอทานเม็ดแรกแผงใหม่ กลายเป็นว่าประจำเดือนหยุด ทั้งที่ก่อนหน้าไหลปกติดี แต่หลังจากผ่านไปได้สัก 1 อาทิตย์มีเลือดสีน้ำตาลออกมา แต่ไม่มากเท่าประจำเดือนเป็นประมาน 3-4 วันค่ะ เป็นไปได้ไหมที่มารอบสองคือประจำเดือนที่ยังไหลไม่หมดในรอบแรกคะ หรือเกิดจากสาเหตุอะไรคะ

คำตอบ

จากที่กล่าวมาในคำถามนั้น น่าจะเป็นการรับประทานยาคุมกำเนิดชนิด 21 เม็ด ซึ่งเมื่อรับประทานหมดแผงแล้วให้หยุด 7 วันก่อนเริ่มแผงใหม่ ไม่ว่าประจำเดือนจะหยุดแล้วหรือยังไม่หยุดก็ตาม ยาเม็ดคุมกำเนิดที่ใช้กันส่วนใหญ่เป็นชนิดฮอร์โมนรวมที่มีตัวยาในกลุ่มเอสโตรเจน (estrogens) ผสมกับตัวยาในกลุ่มโพรเจสติน (progestins) การที่ประจำเดือนหยุดเมื่อเริ่มรับประทานเม็ดแรกอาจเป็นไปได้ว่าเป็นช่วงที่ประจำเดือนจะหมดอยู่แล้ว ยาเม็ดคุมกำเนิด (โดยเฉพาะชนิดที่มีตัวยาในกลุ่มเอสโตรเจนปริมาณต่ำ) มีผลข้างเคียงที่อาจทำให้ประจำเดือนออกกะปริบกะปรอยซึ่งอาจพบเป็นสีคล้ำหรือสีออกน้ำตาลได้ อาจเกิดขึ้นช่วงใดก็ได้ในระหว่างที่ใช้ยาและอาจเกิดขึ้นหลายวัน โดยเฉพาะในระยะแรกเมื่อเริ่มใช้ยาคุมกำเนิด อย่างไรก็ตามในกรณีที่ถามมานี้ หากเดือนต่อ ๆ ไปยังมีเลือดออกมากหรือออกผิดปกติ แนะนำให้พบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุอื่นที่ไม่ได้เกิดจากยาคุมกำเนิด

Reference:
1. Gallo MF, Nanda K, Grimes DA, Lopez LM, Schulz KF. 20 µg versus >20 µg estrogen combined oral contraceptives for contraception. Cochrane Database Syst Rev. 2013. 2013(8):CD003989.
2. Edelman A, Kaneshiro B. Evaluation and management of unscheduled bleeding in women using contraception. In: Uptodate, Post TW (Ed). Waltham (MA): Uptodate, Inc.; 2021. Available from: https://www.uptodate.com.

Keywords:
estrogens, progestins, เอสโตรเจน, โพรเจสติน, ยาคุมกำเนิด, เลือดออกกะปริบกะปรอย