เป็นที่ทราบกันดีว่า การไม่ทานอาหารเช้า นั้นส่งผลเสียต่อร่างกายและเป็นการเริ่มต้นวันที่ไม่ดีนัก จากผลสำรวจในสหรัฐอเมริกา พบว่าชาวอเมริกันร้อยละ 18-20 มักไม่ทานมื้อเช้า ข้อมูลจากการศึกษาใหม่พบว่า ชายวัยกลางคนที่ไม่ทานอาหารเช้ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงกว่าชายที่ทานอาหารเช้า
การศึกษาดังกล่าว ได้ศึกษาในชายวัยกลางคนและสูงอายุ (อายุ 42-82 ปี) ประมาณ 27,000 คน โดยติดตามการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นเวลา 16 ปี ในจำนวนนี้มี 1,527 ราย เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดขึ้น ผู้ทำการศึกษาได้วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมการกิน พบว่าคนที่ไม่ทานมื้อเช้าส่วนใหญ่ เป็นคนโสด ทำงานเต็มเวลาและเป็นกลุ่มที่มีอายุน้อยกว่า ดื่มแอลกอฮอลมากกว่า ไม่ค่อยออกกำลังกาย และสูบบุหรี่มากกว่าเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ทานมื้อเช้า นอกจากนั้นเมื่อทำการปรับตัวแปรกวนต่างๆ และสถานะทางสุขภาพของกลุ่มตัวอย่างแล้ว พบว่า กลุ่มที่ไม่ทานมื้อเช้ามีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสูงขึ้น ร้อยละ 18โดยความเสี่ยงนี้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติในกลุ่มตัวอย่างช่วงวัยกลางคน (45-60 ปี) ส่วนกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุมากกว่า 60 ปี ไม่พบว่าการงดมื้อเช้าเพิ่มความเสี่ยงการเกิดโรคอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
Key words: breakfast, cardiovascular disease, risk, middle-age men, อาหารเช้า, โรคหัวใจ