Eng |
อาจารย์ ดร.ภญ. ชญานิน กีรติไพบูลย์ ภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
การทำสมาธิ เป็นการรับรู้หรือการรู้สึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้น รับรู้สิ่งที่กำลังทำอยู่ และรับรู้ถึงสภาพแวดล้อม หรือบางคนอาจเรียกว่า การอยู่กับปัจจุบัน การทำสมาธิเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ใช้บรรเทาความเครียดซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นการปวดศีรษะไมเกรน งานวิจัยล่าสุดพบว่าการทำสมาธิช่วยลดความถี่และความรุนแรงของการปวดศีรษะไมเกรนได้1 อย่างไรก็ตามแนวทางหลักในการป้องกันและรักษาการปวดศีรษะไมเกรนในปัจจุบันคือการรับประทานยา และบ่อยครั้งที่บุคลากรสาธารณสุขพบปัญหาจากการใช้ยาในกลุ่มผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรน เช่น อาการข้างเคียงจากยา การปวดศีรษะที่เกิดจากการใช้ยามากเกินความจำเป็น และในผู้ป่วยบางรายไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยา เป็นต้น ดังนั้นบทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์เผยแพร่ประโยชน์ของการทำสมาธิต่อการบรรเทาอาการการปวดศีรษะไมเกรน
ภาพจาก : https://www.vejthani.com/wp-content/uploads/2020/03/Migraine-headache-Th.jpg
เมื่ออ่านถึงตรงนี้หลายคนอาจเกิดคำถามว่าการทำสมาธิส่งผลต่อร่างกายเราอย่างไร แล้วทำไมถึงบรรเทาการปวดศีรษะไมเกรนได้ นักวิจัยพบว่าการทำสมาธิมีผลโดยตรงต่อการทำงานของสมอง เนื่องจากการทำสมาธิสามารถยับยั้งการทำงานของสมองในส่วนที่ตอบสนองต่อความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งทั้งความเครียดและความวิตกกังวลเป็นปัจจัยที่กระตุ้นการปวดศีรษะไมเกรน นอกจากนี้นักวิจัยยังพบว่าภาพสแกนสมองของกลุ่มผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรนมีปริมาตรของสมองเนื้อสีเทาซึ่งเป็นส่วนของเซลล์ประสาทลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับอาสาสมัครที่ไม่เคยมีประวัติการปวดศีรษะไมเกรน2,3 โดยเฉพาะบริเวณที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ การรับความรู้สึก ความจำ การตัดสินใจ การควบคุมตนเอง และการแก้ปัญหา โดยผลการศึกษายังแสดงให้เห็นอีกว่าปริมาตรสมองเนื้อสีเทาที่ลดลงมีความสัมพันธ์กับความถี่และระยะเวลาของการเกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนที่เพิ่มขึ้น3 ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงของเนื้อสมองสีเทาจึงอาจเป็นกลไกที่ทำให้เกิดการปวดศีรษะไมเกรน 4
นอกจากนี้ผลการวิจัยยังแสดงถึงเปลี่ยนแปลงปริมาณสารเคมีภายในสมองของผู้ที่ปวดศีรษะไมเกรน5 เนื่องจากการที่ปริมาตรของเนื้อสมองสีเทาลดลง ได้แก่ การมีปริมาณ dopamine, melatonin และ serotonin ลดลง แต่มีปริมาณ cortisol และ norepinephrine เพิ่มขึ้น แสดงว่าให้เห็นว่าการทำสมาธินอกจากสามารถเพิ่มปริมาตรของเนื้อสมองส่วนสีเทาแล้วยังช่วยปรับปริมาณสารเคมีในสมองได้6,7,8,9 ผลการวิจัยระบุว่าสารเคมีในสมอง ได้แก่ dopamine, melatonin และ serotonin มีปริมาณเพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้ที่ฝึกสมาธิ โดย dopamine มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับทักษะการเรียนรู้, melatonin เป็นฮอร์โมนที่ควบคุมวงจรการหลับ-ตื่น ส่วน serotonin หรือสารแห่งความสุข ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์ให้คงที่ ในทางตรงข้ามการทำสมาธิช่วยลดปริมาณ cortisol และ norepinephrine ซึ่งเป็นสารเคมีที่ตอบสนองต่อความเครียดและความวิตกกังวล 6,7,8,9 ดังนั้นการทำสมาธิจึงปรับทั้งการทำงานและโครงสร้างของสมอง ช่วยบรรเทาการปวดศีรษะไมเกรน อย่างไรก็ตามการศึกษากลไกในระดับโมเลกุลของการทำสมาธิต่อการบรรเทาการปวดศีรษะไมเกรนยังจำเป็นต้องทำการศึกษาต่อไป
หากพิจารณาเชิงเหตุผลแบบที่ไม่ต้องอาศัยข้อมูลจากงานวิจัย การที่เรามีสมาธิจะทำให้เราอยู่กับปัจจุบัน ลดการใช้ความคิด มีสติ และสามารถพิจารณาว่าสิ่งใดทำให้เกิดความเครียดหรือกังวล
เมื่อรู้สาเหตุแล้วการแก้ปัญหาย่อมไม่ใช่เรื่องยากนะคะ สุดท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีสุขภาพกาย และใจที่สดชื่นแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บค่ะ