Eng |
ศาสตราจารย์ ดร.ภญ. ลีณา สุนทรสุข ภาควิชาเภสัชเคมี คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
อาหารเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นในการดำรงชีวิตสำหรับมนุษย์ แต่ทราบหรือไม่ว่าในแต่ละปีมีอาหารจำนวนมากที่ถูกทิ้งไปให้กลายเป็น “ขยะอาหาร (food waste)” จำนวนมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่เหลือทิ้งจากมื้ออาหารในแต่ละวันจากครัวเรือน โรงอาหาร ร้านอาหาร ภัตตาคาร งานเลี้ยงต่าง ๆ หรือถูกกำจัดออกจากกระบวนการเกษตรกรรม อุตสาหกรรมการผลิต การขนส่งและการกระจายผลิตภัณฑ์อาหารสู่ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า ก่อนถึงมือผู้บริโภค ในแต่ละปีขยะอาหารเหล่านี้มีปริมาณสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ (1.3 พันล้านตันต่อปี) หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของปริมาณอาหารที่ผลิตขึ้นทั่วโลก ในต่างประเทศมีการเก็บสถิติปริมาณขยะอาหารที่ประชากรในแต่ละประเทศผลิตขึ้นดังแสดงในตาราง
ข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นว่าปัญหาขยะอาหารเป็นประเด็นสาธารณะที่ทุกภาคส่วนควรให้ความร่วมมือในการแก้ไขเพื่อลดปริมาณขยะอาหาร เนื่องจากทำให้เกิดความสูญเสียทางเศษฐกิจและสิ้นเปลืองทรัพยากรจำนวนมาก เนื่องจากในกระบวนการผลิตอาหารและการทำลายขยะอาหารล้วนมีต้นทุนทั้งสิ้น ทั้งต้นทุนทางตรงและต้นทุนทางอ้อม เช่น ค่าแรง ค่าวัตถุดิบ ค่าขนส่ง ค่าปุ๋ย ค่าสารเคมี ทรัพยากรดิน และน้ำ เป็นต้น รวมทั้งการสูญเสียพลังงานจำนวนมากในการกำจัดขยะอาหาร เช่น พลังงานความร้อนเพื่อใช้ในการเผาขยะอาหาร หรือการฝังกลบขยะอาหาร รวมทั้งยังก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกจากขยะอาหารในแต่ละปีซึ่งมีปริมาณเท่ากับแก๊สเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาจากการคมนาคม
การช่วยกันลดปริมาณขยะอาหารจึงเป็นหน้าที่ของทุกคน โดยอาศัยหลักการ 3R ซึ่งประกอบด้วย Reduce, Reuse, Recycle
Reduce ได้แก่ การลดปริมาณอาหาร การจัดทำรายการซื้ออาหารเพื่อซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็น ไม่กักตุน เตรียมอาหารเท่าที่ปริมาณที่จะรับประทาน โดยเฉพาะในงานเลี้ยงสังสรรค์ต่าง ๆ ซึ่งมักจะมีการเตรียมอาหารเผื่อเป็นจำนวนมาก ควรลดปริมาณลงและเตรียมเท่าที่จำเป็น
Reuse ได้แก่ การนำวัตถุดิบที่เหลือมาทำเป็นอาหารเมนูใหม่ การนำอาหารที่รับประทานเหลือจากร้านหรือภัตตาคารเพื่อนำไปรับประทานต่อสำหรับมื้อถัดไป การนำอาหารที่เหลือไปเป็นอาหารสัตว์ ร้านค้าหรือร้านอาหารต่าง ๆ อาจจะนำอาหารที่เหลือซึ่งยังอยู่ในสภาพที่ดีจำหน่ายลดราคา นำไปบริจาคหรือมอบให้แก่พนักงานไปบริโภค
Recycle ได้แก่ การนำขยะอาหารไปทำปุ๋ยหมักหรืออาหารสัตว์ การนำน้ำมันพืชใช้แล้วไปผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพ (biofuel)
หากทุกคนสามารถทำได้ตามหลักการข้างต้นก็จะช่วยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดภาวะโลกร้อนและเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม