Eng |
อาจารย์ ดร.ภก. สุรศักดิ์ วิชัยโย ภาควิชาเภสัชวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการนอนหลับอย่างเพียงพอนั้น ทำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น อารมณ์แจ่มใส และพร้อมสำหรับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในทุกๆวัน ซึ่งในวัยผู้ใหญ่โดยเฉลี่ยควรนอนหลับประมาณวันละ 7-8 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่พบกับปัญหานอนไม่หลับ ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การเดินทางข้ามทวีป (ที่เรียกว่า jet lag) หรือ เกิดจากความเครียด หรือโรคต่างๆ เป็นต้น ทำให้ตื่นเช้ามาด้วยอารมณ์หงุดหงิดและไม่มีสมาธิในการทำงาน นอกจากนี้ การนอนไม่หลับอาจเกิดจากยาซึ่งหลายคนอาจไม่ทราบ ในบทความนี้จึงได้นำเสนอตัวอย่างยาที่มีโอกาสทำให้นอนไม่หลับ เพื่อให้ผู้ป่วยได้สังเกตตัวเองขณะกำลังใช้ยาเหล่านี้
ยาอะไรบ้างที่อาจทำให้นอนไม่หลับ
เนื่องจากการนอนหลับถูกควบคุมด้วยสมอง เช่น สมองมีการหลั่งสารต่างๆ เพื่อทำให้รู้สึกง่วง เป็นต้น ดังนั้น ยาที่อาจทำให้นอนไม่หลับส่วนใหญ่จะต้องผ่านเข้าไปในสมองแล้วส่งผลรบกวนกระบวนการดังกล่าว เช่น ยามีฤทธิ์กระตุ้นสมองโดยเพิ่มการทำงานของสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับการตื่นตัว หรือยาอาจลดการทำงานของสารสื่อประสาทที่ช่วยให้หลับ เป็นต้น ซึ่งมักเป็นยาที่ใช้รักษาโรคทางระบบประสาทและจิตเวท นอกจากนี้ ยากลุ่มอื่นๆ เช่น ยาแก้คัดจมูก หรือยาฆ่าเชื้อบางชนิด ก็อาจทำให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกัน ดังแสดงในตาราง ซึ่งผู้ป่วยสามารถตรวจสอบชื่อยาเหล่านี้บนแผงยาหรือฉลากยาด้วยตัวเอง
ทำอย่างไรเมื่อสงสัยว่านอนไม่หลับจากยา
หากสงสัยว่ายาที่กำลังใช้อยู่เป็นสาเหตุให้นอนไม่หลับ ควรปรึกษาแพทย์ที่สั่งจ่ายยา หรือเภสัชกรจากโรงพยาบาลที่ได้รับยา หรือเภสัชกรประจำร้านยาใกล้บ้าน เพื่อช่วยประเมินว่าอาจเกิดจากยาจริงหรือไม่ ซึ่งหากพบว่าเกิดจากยา แพทย์อาจปฏิบัติดังนี้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะพบว่ายาที่กำลังใช้เป็นยาที่อาจทำให้นอนไม่หลับก็ไม่ควรตื่นตระหนกหรือระแวง เพราะอาการนอนไม่หลับจากยาเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับทุกคน และไม่ควรปรับเปลี่ยนยาด้วยตนเอง นอกจากนี้ ไม่ควรนำยาเหล่านี้มาใช้แก้ง่วง ซึ่งถือเป็นการใช้ยาในทางที่ผิดจนอาจได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต