| 30 ครั้ง 10 ธันวาคม 2568 |
เมื่อวันที่ 10-11 ธันวาคม 2568 คณาจารย์หลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา สาขาวิชาการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ มหาวิทยาลัยมหิดล (MUHTA) นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร. ภญ.มนทรัตม์ ถาวรเจริญทรัพย์ ประธานหลักสูตร MUHTA และ รองศาสตราจารย์ ดร. ภญ.อุษา ฉายเกล็ดแก้ว เข้าร่วมเป็นวิทยากรรับเชิญ (Keynote speaker) ในการประชุมวิชาการระดับชาติ VIROCON 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 8-10 ธันวาคม 2568 ภายใต้หัวข้อ “Changing Landscapes in Human, Animal and Plant Viruses: Bridging Basic Science, Innovation and Public Health” ซึ่งจัดโดย ICMR-National Institute of Virology ร่วมกับ Indian Virological Society (IVS) ณ เมืองปูเน ประเทศอินเดีย
ในการประชุมดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2568 รองศาสตราจารย์ ดร. ภญ.มนทรัตม์ ถาวรเจริญทรัพย์ บรรยายในหัวข้อ “Translated vaccine innovation into value: Health outcome, economic preference, and equity” ขณะที่ รองศาสตราจารย์ ดร. ภญ.อุษา ฉายเกล็ดแก้ว บรรยายในหัวข้อ “Health technology assessment in viral diagnostics and therapeutics for policy decision making”
นอกจากนี้ ในวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ทั้งสองท่านยังทำหน้าที่เป็นวิทยากรอบรมเชิงปฏิบัติการด้านการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (HTA Workshop) โดยรองศาสตราจารย์ ดร. ภญ.มนทรัตม์ ถ่ายทอดหัวข้อ “Utility measurements in HTA and generalizability of results” และรองศาสตราจารย์ ดร. ภญ.อุษา ถ่ายทอดหัวข้อ “Economic evaluations and modelling in HTA” ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและบทบาทของ MUHTA ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้าน HTA เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายด้านนวัตกรรมเกี่ยวกับไวรัสและสาธารณสุขในระดับนานาชาติ
การประชุมครั้งนี้นับเป็นเวทีแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ที่สำคัญ เปิดโอกาสให้ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ทั้งด้านไวรัสวิทยา สุขภาพสัตว์ พืช สิ่งแวดล้อม และสาธารณสุข ได้ร่วมกันอภิปราย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และพัฒนาความร่วมมือ เพื่อค้นหาแนวทางแก้ไขปัญหาการระบาดของไวรัสในมิติต่าง ๆ โดยภายในงานประกอบด้วยการบรรยายปาฐกถา การอภิปรายแบบสหสาขาวิชา การนำเสนอผลงานแบบปากเปล่าและโปสเตอร์ ตลอดจนการบรรยายจากผู้ทรงคุณวุฒิระดับโลก
การมีส่วนร่วมของคณาจารย์ MUHTA ในเวทีนานาชาติครั้งนี้ สอดคล้องกับพันธกิจของคณะฯ ในการผลิตและเผยแพร่งานวิจัยและองค์ความรู้ด้านยาและสาธารณสุขที่มีมาตรฐานในระดับนานาชาติ รวมถึงการเป็นศูนย์กลางบริการวิชาการเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ กิจกรรมดังกล่าวยังสนับสนุน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้แก่ SDG 3: การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี SDG 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน และ SDG 17: หุ้นส่วนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านการยกระดับองค์ความรู้ด้านไวรัสวิทยา นวัตกรรมวัคซีน การวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางสาธารณสุข และการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
