| 15 ครั้ง 25 ตุลาคม 2568 |
เมื่อวันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม 2568 (ตามเวลาท้องถิ่นของสาธารณรัฐประชาชนจีน) ผู้บริหารคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล นำโดย รองศาสตราจารย์ ดร. ภก.วิชิต โนสูงเนิน รองคณบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม รองศาสตราจารย์ ดร. ภญ.กชพรรณ ชูลักษณ์ และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ภก.จตุรงค์ ประเทืองเดชกุล ได้เข้าร่วมในงาน Sino-Thai Partner Universities Cooperation and Exchange Activities ซึ่งจัดโดย Wenzhou Medical University (WMU) ณ ห้องประชุม B108 ชั้น 1 อาคาร Biomedical Research Building เมืองเหวินโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีผู้แทนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยและจีนเข้าร่วม เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการและแลกเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาภายใต้กรอบความร่วมมือของ Sino-Thai Biopharmaceutical Industry Alliance ซึ่งความร่วมมือระหว่าง WMU และสถาบันอุดมศึกษาในประเทศไทย เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาวภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative ของรัฐบาลจีน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในด้านการศึกษา การวิจัย การสาธารณสุข และการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มนวัตกรรมร่วมระหว่างจีนและไทยในด้านการวิจัย อุตสาหกรรม และการศึกษา เพื่อส่งเสริมการดำเนินโครงการวิจัยร่วม การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างความร่วมมือเชิงอุตสาหกรรมในสาขาวิทยาศาสตร์ชีวเภสัชกรรม (biopharmaceutical sciences)
หลังจากนั้นในช่วงบ่าย คณะผู้แทนจากคณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล ได้เข้าร่วมการเยี่ยมชม Scientific Research Platform ณ School of Pharmacy, Wenzhou Medical University ซึ่งประกอบด้วย การนำเสนอข้อมูลของทั้งสองฝ่ายและการแลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือ โดยเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ได้หารือแนวทางเชิงปฏิบัติสำหรับการพัฒนาความร่วมมือในอนาคต รวมถึงการเสริมสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างทั้งสองสถาบัน นอกจากนี้ ยังได้มีการอภิปรายเชิงลึกเกี่ยวกับการขยายความร่วมมือทวิภาคีในด้านวิทยาศาสตร์เภสัชกรรม ครอบคลุมถึงการวิจัยร่วม การแลกเปลี่ยนคณาจารย์และนักศึกษา ตลอดจนการจัดอบรมเชิงวิชาชีพร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวนับเป็นทั้งเวทีทางวิชาการและทางการทูต ที่มีบทบาทสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและจีนในด้านการศึกษาและการวิจัยทางเภสัชศาสตร์ อีกทั้งยังสอดคล้องกับเป้าหมายร่วมภายใต้โครงการ Health Silk Road Initiative เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ด้านสาธารณสุขและนวัตกรรมของทั้งสองประเทศ
ในช่วงเช้าของวันเดียวกัน คณะผู้แทนจากคณะฯ ยังได้เยี่ยมชม University History Museum และ Biomedical Research Building ของ WMU เพื่อศึกษาความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย รวมถึงพัฒนาการทางการศึกษาและความเป็นเลิศด้านการวิจัย จากนั้นได้เดินทางต่อไปยัง China Gene Medicine Valley และ China Eye Valley ซึ่งเป็นศูนย์นวัตกรรมสำคัญของเมืองเหวินโจวที่มีบทบาทโดดเด่นในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านชีวการแพทย์และเภสัชกรรม
การเยือนในครั้งนี้ช่วยเปิดมุมมองใหม่ให้แก่คณะฯ ในการเรียนรู้รูปแบบการบูรณาการงานวิจัยกับอุตสาหกรรมของประเทศจีน อีกทั้งยังเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายความร่วมมือด้านนวัตกรรมทางเภสัชศาสตร์ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของคณะฯ ในการเสริมสร้างความร่วมมือทางวิชาการระดับนานาชาติ ยกระดับขีดความสามารถด้านการวิจัย และส่งเสริมการพัฒนาการศึกษาและสุขภาพของประชาคมโลกอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวยังสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDGs) โดยเฉพาะ SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี, SDG 4: การศึกษาที่มีคุณภาพ, SDG 8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ, SDG 9: อุตสาหกรรม นวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐาน, และ SDG 17: ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้ นวัตกรรม และคุณภาพชีวิตของประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง
