ยาแก้ข้ออักเสบ (กลุ่มเอ็นเสด)..ระวังอันตรายต่อไต
รองศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรหญิง นงลักษณ์ สุขวาณิชย์ศิลป์ หน่วยคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล |
|
46,529 ครั้ง เมื่อ 15 นาทีที่แล้ว | |
2020-09-08 |
“ยาบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (non-steroidal antiinflammatory drugs หรือ NSAIDs)” บุคลากรทางการแพทย์มักเรียกสั้น ๆ ตามชื่อย่อในภาษาอังกฤษว่า "เอ็นเสด (NSAIDs)" ยาในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ใช้บรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดในโรคข้ออักเสบ ยาบางชนิดยังนำมาใช้บรรเทาอาการปวดในกรณีอื่น หรือใช้ในโรคอื่นรวมถึงใช้ลดไข้ด้วย จึงมีการใช้ยาในกลุ่มนี้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้เสี่ยงที่จะได้รับผลข้างเคียงของยา ซึ่งนอกจากทำให้เกิดโรคแผลในกระเพาะอาหารแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายต่อไตทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดภาวะไตเสียหายเฉียบพลัน ซึ่งแม้จะพบได้น้อยในคนหนุ่มสาว แต่พบได้มากขึ้นในคนสูงอายุและทารกแรกคลอด หรือในคนที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นร่วมด้วย เช่น โรคไตเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูง หรือผู้ที่มีการใช้ร่วมกับยาอื่นที่เป็นอันตรายต่อไตเช่นกัน ในบทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไปของยาในกลุ่มเอ็นเสด อันตรายต่อไตจากเอ็นเสดพร้อมทั้งกลไกการเกิด ปัจจัยส่งเสริมการเกิดอันตรายต่อไตจากเอ็นเสด และข้อแนะนำในการใช้เอ็นเสดเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อไต
ข้อมูลทั่วไปของยาในกลุ่ม “เอ็นเสด”
การที่เรียกยาในกลุ่มเอ็นเสดว่า “ยาบรรเทาอาการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์” เนื่องจากยาบรรเทาอาการอักเสบมีทั้งชนิดที่เป็นยาสเตียรอยด์ซึ่งมีฤทธิ์เลียนแบบฮอร์โมนกลุ่มกลูโคคอร์ติคอยด์ (glucocorticoids) ในร่างกาย และยาที่ไม่ใช่สเตียรอยด์หรือ “เอ็นเสด” ที่กล่าวถึงในบทความนี้ ยาในกลุ่มเอ็นเสดมีมากมาย เช่น แอสไพริน (aspirin หรือ acetyl salicylic acid), ไอบูโพรเฟน (ibuprofen), ไดโคลฟีแน็ก (diclofenac), นาพร็อกเซน (naproxen), ไพร็อกซิแคม (piroxicam), เมล็อกซิแคม (meloxicam), เซเลค็อกสิบ (celecoxib), เอทอริค็อกสิบ (etoricoxib) ยาในกลุ่มเอ็นเสดคนทั่วไปมักเรียกว่า “ยาแก้ข้ออักเสบ” หรือ “ยาแก้ปวดข้อ” (ดูข้อมูลเพิ่มเติมเรื่อง ยาแก้ปวดข้อ ข้ออักเสบ-กลุ่มเอ็นเสด) เนื่องจากส่วนใหญ่ใช้บรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดในโรคข้ออักเสบ ยาบางชนิดในกลุ่มนี้ยังใช้บรรเทาอาการปวดในกรณีอื่น (เช่น ปวดจากแผลผ่าตัด ปวดฟัน ปวดประจำเดือน ปวดศีรษะ) และลดไข้ ยาในกลุ่มเอ็นเสดออกฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ "ไซโคลออกซิจีเนส" หรือ "ค็อกซ์" (cyclooxygenase หรือ COX) เอนไซม์นี้ทำหน้าที่สร้างพวกพรอสตาแกลนดิน (prostaglandins) ซึ่งมีบทบาทมากมายในร่างกาย รวมถึงการทำให้หลอดเลือดภายในไตขยายตัว (จึงเท่ากับว่ายาในกลุ่มเอ็นเสดออกฤทธิ์ยับยั้งการสร้างพวกพรอสตาแกลนดิน) อาจแบ่งยาในกลุ่มเอ็นเสดตามฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ดังกล่าวออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ (1) กลุ่มที่ยับยั้งทั้งค็อกซ์-1 และค็อกซ์-2 และ (2) กลุ่มที่เจาะจงยับยั้งค็อกซ์-2 (ดูตาราง) ยาในกลุ่มเอ็นเสดมีผลไม่พึงประสงค์หลายอย่าง เช่น เกิดแผลในกระเพาะอาหาร รบกวนการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ทำให้ความดันโลหิตเพิ่มเล็กน้อย เป็นอันตรายต่อไต ยาบางชนิดเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและภาวะสมองขาดเลือด โดยผลไม่พึงประสงค์เหล่านี้พบได้มากหรือน้อยแตกต่างกันในยาแต่ละกลุ่ม
อันตรายต่อไตจาก “เอ็นเสด”
ไตทำหน้าที่ผลิตปัสสาวะ เป็นอวัยวะสำคัญในการรักษาสมดุลน้ำและอิเล็กโทรไลต์ในร่างกาย อีกทั้งยังช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกายโดยการขับถ่ายมากับปัสสาวะ ไตรองรับสารต่าง ๆ ก่อนขับทิ้งทางปัสสาวะ ด้วยเหตุนี้ไตจึงเป็นอวัยวะที่มีความเสี่ยงสูงต่ออันตรายจากสารเหล่านั้น ผลเสียต่อไตที่เกิดจากยาอาจเกิดแบบเฉียบพลันหรือเป็นไปทีละน้อย อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่โกลเมอรูลัส (glomerulus) ซึ่งทำหน้าที่กรองเลือดขั้นแรกเพื่อสร้างเป็นปัสสาวะ เรื่อยมาตลอดท่อไต รวมถึงเนื้อเยื่อใกล้เคียง ยาในกลุ่มเอ็นเสดอาจทำให้เกิดภาวะไตเสียหายเฉียบพลัน (acute kidney injury) ซึ่งเกิดภายหลังได้รับยาไม่นาน (1-30 วัน) หรือทำให้เกิดโรคไตเรื้อรัง (chronic kidney disease) ซึ่งเกิดเมื่อใช้ยาติดต่อกันเป็นเวลานาน ด้วยเหตุนี้เมื่อใช้ยาในกลุ่มเอ็นเสดจึงควรเฝ้าระวังถึงผลเสียต่อไต โดยเฉพาะภาวะไตเสียหายเฉียบพลัน ซึ่งแม้จะพบได้น้อยในคนหนุ่มสาว แต่พบได้มากขึ้นในคนสูงอายุหรือทารกแรกเกิด หรือคนที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นร่วมด้วย (ดูหัวข้อ ปัจจัยส่งเสริมการเกิดอันตรายต่อไตจาก “เอ็นเสด”) เมื่อไตเสียหายจะมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ขับปัสสาวะน้อยลง ร่างกายสะสมของเสีย เกิดภาวะบวมน้ำ สมดุลน้ำและอิเล็กโทรไลต์เสียไป โพแทสเซียมในเลือดสูง ระดับครีเอทินีน (creatinine) ในซีรัมและค่าบียูเอ็น (blood urea nitrogen หรือ BUN) สูงขึ้น ส่งผลรบกวนการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ทำให้เกิดความผิดปกติหลายอย่าง เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ขาและเท้าบวม สับสน
“เอ็นเสด” ทำอันตรายต่อไตได้อย่างไร?
การเกิดอันตรายต่อไตจากยาในกลุ่มเอ็นเสดที่มักพบคือภาวะไตเสียหายเฉียบพลัน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากยาทำให้การไหลเวียนเลือดภายในไตลดลง เนื่องจากยาออกฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ที่ใช้ในการสร้างพรอสตาแกลนดิน ทำให้มีพรอสตาแกลนดินน้อยลง (สารนี้ช่วยให้หลอดเลือดภายในไตขยายตัว ทำให้การไหลเวียนเลือดเกิดขึ้นได้ดี) เอนไซม์ที่บทบาทสำคัญ คือค็อกซ์-2 ยาในกลุ่มเอ็นเสดไม่ว่าชนิดใดที่ใช้เพื่อลดอาการอักเสบ ลดอาการปวดและลดไข้ ล้วนมีฤทธิ์ยับยั้งค็อกซ์-2 ได้ทั้งสิ้น จึงทำให้การไหลเวียนเลือดภายในไตลดลงและเกิดภาวะไตเสียหายเฉียบพลันได้ การเกิดภาวะไตเสียหายเฉียบพลันอาจเกิดจากเกิดปฏิกิริยาทางภูมิคุ้มกันได้แต่เป็นสาเหตุที่พบได้น้อย นอกจากนี้ผลกระทบที่เนื่องจากการไหลเวียนเลือดภายในไตลดลงอาจเป็นไปทีละน้อย ประกอบกับยาในกลุ่มนี้ทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ด้วยเหตุนี้การใช้ยาในระยะยาวจึงนำไปสู่การเกิดโรคไตเรื้อรังได้
ปัจจัยส่งเสริมการเกิดอันตรายต่อไตจาก “เอ็นเสด”
การเกิดอันตรายต่อไตจากการใช้ยาในกลุ่มเอ็นเสดเกี่ยวข้องกับปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
ข้อแนะนำในการใช้ “เอ็นเสด” เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อไต
ยาในกลุ่มเอ็นเสดทำอันตรายต่อไตได้ทั้งแบบเฉียบพลันและแบบเรื้อรัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดภาวะไตเสียหายเฉียบพลัน ซึ่งแม้จะพบได้น้อยในคนหนุ่มสาว แต่พบได้มากขึ้นในคนสูงอายุและทารกแรกคลอด หรือคนที่มีปัจจัยเสี่ยงอื่นอยู่ก่อน เช่น โรคไตเรื้อรัง โรคความดันโลหิตสูง โรคตับ โรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือมีการใช้ร่วมกับยาอื่นที่เป็นอันตรายต่อไต ดังได้กล่าวแล้วข้างต้น ด้วยเหตุนี้เพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อไตจากยาในกลุ่มเอ็นเสด จึงมีข้อแนะนำในการใช้ยาดังนี้
มะเร็งตับ รู้เร็ว วินิจฉัยเร็ว รักษาหายได้ 13 วินาทีที่แล้ว | |
สเต็มเซลล์ (Stem Cell); เซลล์ต้นกำเนิด ตอนที่ 2: รู้จักเซลล์ต้นกำเนิดไอพีเอส ? 14 วินาทีที่แล้ว | |
โรคลมร้อนหรือโรคลมแดด ภัยเสี่ยงถึงชีวิต (Heat Stroke) 1 นาทีที่แล้ว | |
การทำสมาธิส่งผลดีต่อสมองอย่างไร? 1 นาทีที่แล้ว | |
ยาต้านมะเร็ง 1 นาทีที่แล้ว | |
รู้รอบตอบชัด สารพัด “ยาลดกรด” 1 นาทีที่แล้ว | |
พลาสติกแบบไหนที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ 1 นาทีที่แล้ว | |
ยาปฏิชีวนะ..ระวัง..อย่าใช้พร่ำเพรื่อ 2 นาทีที่แล้ว | |
การค้นคว้ายาต้านไวรัสโควิด-19 ตอนที่ 2 : เรมเดซิเวียร์ (remdesivir) และยาอื่น 2 นาทีที่แล้ว | |
ฝุ่น PM 2.5 จิ๋ว แต่ไม่จบ 2 นาทีที่แล้ว |
|
HTML5 Bootstrap Font Awesome