ยารักษาโรคกระดูกพรุน...เหตุใดจึงกินหลังตื่นตอนเช้าโดยกลืนยาทั้งเม็ดพร้อมน้ำเปล่า?
รองศาสตราจารย์ ดร. เภสัชกรหญิง นงลักษณ์ สุขวาณิชย์ศิลป์ หน่วยคลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล |
|
49,109 ครั้ง เมื่อ 1 วันที่แล้ว | |
2019-11-22 |
ยาที่จะกล่าวถึงในที่นี้เป็นยาในกลุ่ม “บิสฟอสโฟเนต (bisphosphonates)” ซึ่งมีบทบาทมากในการรักษาโรคกระดูกพรุน ยาในกลุ่มนี้ถูกดูดซึมจากทางเดินอาหารได้น้อยมาก อีกทั้งมีผลไม่พึงประสงค์ที่อาจทำให้หลอดอาหารเป็นแผล ดังรายละเอียดที่กล่าวถึงข้างล่างนี้
ตัวอย่างยารักษาโรคกระดูกพรุนในกลุ่มบิสฟอสโฟเนตชนิดรับประทาน
ยาในกลุ่มบิสฟอสโฟเนตที่วางจำหน่ายมีทั้งชนิดฉีดและชนิดรับประทาน ตัวอย่างยาชนิดรับประทานที่ใช้กันมากในการรักรักษาโรคกระดูกพรุน เช่น อะเลนโดรเนต (alendronate), ไอแบนโดรเนต (ibandronate), ไรเซโดรเนต (risedronate) บางชนิดมีทั้งตำรับที่เป็นยาเดี่ยวและตำรับยาสูตรผสมร่วมกับวิตามินดี ยามีหลายความแรงให้เลือกใช้ มีทั้งแบบรับประทานทุกวัน หรือทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน การรับประทานยาทุกสัปดาห์หรือทุกเดือนเป็นการเพิ่มความสะดวกและลดปัญหาเรื่องการลืมรับประทานยา อย่างไรก็ตามการรับประทานยาปริมาณมากในคราวเดียวอาจเกิดผลไม่พึงประสงค์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะผลที่ทางเดินอาหาร
ยาในกลุ่มบิสฟอสโฟเนตมีการดูดซึมจากทางเดินอาหารได้น้อยมาก
ยาในกลุ่มบิสฟอสโฟเนตชนิดรับประทานไม่ว่าจะเป็น อะเลนโดรเนต ไอแบนโดรเนต หรือไรเซโดรเนต ดังกล่าวข้างต้น ล้วนถูกดูดซึมจากทางเดินอาหารได้น้อยมากกล่าวคือน้อยกว่า 1% (ดูรูปที่ 1) ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับยาในกลุ่มอื่น และราว 60% ของปริมาณที่ถูกดูดซึมนี้ (หรือ 0.6% ของปริมาณที่รับประทาน) เท่านั้นที่ไปถึงยังกระดูกและสะสมอยู่ที่นั่น ที่เหลือจะถูกขับออกทางไต อย่างไรก็ตามการรับประทานยาตามขนาดที่แนะนำต่อเนื่องเป็นเวลานานนั้นเพียงพอสำหรับให้ผลในการป้องกันและรักษาโรคกระดูกพรุน อาหารต่าง ๆ รวมถึงยาบางชนิดลดการดูดซึมยาในกลุ่มบิสฟอสโฟเนตได้ โดยเฉพาะอาหารหรือยาที่มีสารไอออนชนิดประจุบวกสองหรือบวกสาม เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม อะลูมิเนียม (พบได้ในยาเม็ดแคลเซียม ยาลดกรด) จะยับยั้งการดูดซึมยาในกลุ่มบิสฟอสโฟเนตที่กล่าวถึงโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้เครื่องดื่ม เช่น นม กาแฟ น้ำผลไม้ น้ำแร่ ลดการดูดซึมยาได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงแนะนำให้รับประทานยาในกลุ่มบิสฟอสโฟเนตขณะท้องว่าง ซึ่งควรเป็นเวลาหลังตื่นนอนตอนเช้า โดยรับประทานพร้อมน้ำเปล่าประมาณ 1 แก้ว (หรือราว 180-240 มิลลิลิตร) หลังจากนั้นไม่ควรรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มประเภทใด ๆ จนกว่าจะพ้น 30-60 นาทีไปแล้ว
ผลไม่พึงประสงค์ของยาในกลุ่มบิสฟอสโฟเนต
ผลไม่พึงประสงค์ของยาในกลุ่มบิสฟอสโฟเนตมีหลายอย่าง ชนิดที่เกิดรุนแรงพบได้น้อย โดยรวมถือเป็นยาที่ค่อนข้างปลอดภัย ผลไม่พึงประสงค์ที่อาจพบ เช่น ระคายทางเดินอาหาร เกิดแผลในปาก หลอดอาหารเป็นแผล หัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว ภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ กระดูกขากรรไกรตาย การหักของกระดูกต้นขาผิดแบบ ปวดกล้ามเนื้อและกระดูก รบกวนการซ่อมแซมกระดูกที่หัก ซึ่งการที่ยาในกลุ่มบิสฟอสโฟเนตอาจทำให้เกิดแผลในปากและหลอดอาหาร (ดูรูปที่ 2) ซึ่งการเกิดแผลในหลอดอาหาร ทำให้มีอาการแสบหรือเจ็บในลำคอ กลืนอาหารลำบาก จึงมีข้อแนะนำให้กลืนยาทั้งเม็ด (โดยไม่อม ไม่ดูด ไม่เคี้ยว และไม่บดเม็ดยา) พร้อมน้ำเปล่าจำนวนมากพอ (ประมาณ 1 แก้วหรือราว 180-240 มิลลิลิตร) และให้อยู่ในท่าที่คอและหลังตั้งตรง อาจนั่ง ยืน หรือเดิน โดยไม่ให้นอนหรือเอนหลังหรือโน้มตัว เป็นเวลาไม่น้อยกว่า 30-60 นาที เพื่อลดความเสี่ยงที่ยาจะไหลย้อนมายังหลอดอาหาร
สรุปเหตุผลที่ให้รับประทานยาหลังตื่นนอนตอนเช้าโดยกลืนทั้งเม็ดพร้อมน้ำเปล่า
ด้วยเหตุนี้หากผู้ที่ใช้ยามีความเข้าใจถึงวิธีการใช้ยาและปฏิบัติอย่างถูกต้องจะช่วยให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้ยารักษาโรคกระดูกพรุนในกลุ่มบิสฟอสโฟเนต
การผสมยาปฏิชีวนะชนิดผงแห้งสำหรับรับประทาน 9 วินาทีที่แล้ว | |
ยารักษาโรคเชื้อราที่เล็บ 1 นาทีที่แล้ว | |
ความเครียด และวิธีแก้ความเครียด 1 นาทีที่แล้ว | |
ก่อนกินกลอย...ดูกันให้ดีๆ ก่อนนะ 1 นาทีที่แล้ว | |
การใช้ยาในหญิงมีครรภ์ : ข้อแนะนำเพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายต่อทารกในครรภ์ 1 นาทีที่แล้ว | |
ยาเลื่อนประจำเดือน .. ที่นี่มีคำตอบ 1 นาทีที่แล้ว | |
อันตรายของแสงสีฟ้าต่อสุขภาพดวงตา 2 นาทีที่แล้ว | |
คันหัว .. รังแค ... แก้กันอย่างไร 2 นาทีที่แล้ว | |
ยาคุมฉุกเฉิน ... เรื่องจริงที่ผู้หญิงต้องรู้ 3 นาทีที่แล้ว | |
การดูแลช่องปาก และความรู้เรื่องยาสีฟัน 3 นาทีที่แล้ว |
|
HTML5 Bootstrap Font Awesome