ภาวะขาดน้ำและเกลือแร่จากอาการท้องเสียและอาเจียน: ปัญหาสำคัญในผู้สูงอายุที่ไม่ควรมองข้าม
อาจารย์ ดร. ภญ.กัลยาณี โตนุ่ม ภาควิชาสรีรวิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล |
|
503 ครั้ง เมื่อ 4 ช.ม.ที่แล้ว | |
2025-07-14 |
ภาวะขาดน้ำและเกลือแร่เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในผู้ที่มีอาการท้องเสียและ/หรืออาเจียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะสำคัญหลายระบบ รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ภาวะเพ้อ หกล้มและกระดูกหัก การบาดเจ็บของไต และการเข้ารักษาในโรงพยาบาลและอัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้น การประเมินภาวะขาดน้ำอย่างเหมาะสมและการเลือกแนวทางการดูแลรักษาที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในประชากรสูงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาและมีความเปราะบางต่อภาวะดังกล่าว
1. ความชุกและผลกระทบของภาวะขาดน้ำในผู้สูงอายุ
แม้ว่าภาวะขาดน้ำจะเป็นภาวะที่พบได้ทั่วไป แต่กลับถูกประเมินต่ำกว่าความเป็นจริง โดยเฉพาะในประชากรผู้สูงอายุที่พักอาศัยในสถานดูแลหรือโรงพยาบาล ซึ่งมีอัตราการเกิดภาวะนี้สูงถึงร้อยละ 17–28 ผลกระทบที่ตามมามีตั้งแต่ความผิดปกติเล็กน้อย เช่น ความเหนื่อยล้า ความสับสน ไปจนถึงภาวะรุนแรง เช่น การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ภาวะไตบาดเจ็บเฉียบพลัน และการเข้ารักษาในโรงพยาบาลและอัตราการเสียชีวิตที่สูงขึ้น
2. กลไกทางสรีรวิทยาที่เกี่ยวข้องกับภาวะขาดน้ำในผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาหลายประการที่เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ ได้แก่
2.1 ความรู้สึกกระหายน้ำลดลง กลไกควบคุมความกระหายน้ำที่สมองตอบสนองต่อการกระตุ้นได้น้อยลง
2.2 การทำงานของไตลดลง ไตมีความสามารถในการขับของเสียและการทำให้ปัสสาวะเข้มข้นลดลง ส่งผลให้สูญเสียน้ำมากขึ้น
2.3 ปริมาณน้ำในร่างกายลดลง เนื่องจากมวลกล้ามเนื้อน้อยลงและมีไขมันเพิ่มขึ้น ทำให้ความสามารถในการรักษาสมดุลน้ำลดลง (เนื้อเยื่อไขมันมีน้ำประมาณ 11% ขณะที่เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อมีน้ำประมาณ 75%)
2.4 ความบกพร่องทางความคิด เช่น ภาวะสมองเสื่อม หรือภาวะเพ้อ อาจทำให้ลืมดื่มน้ำหรือสื่อสารความต้องการไม่ได้
2.5 การใช้ยาหลายชนิดร่วมกัน ซึ่งมักพบในผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวหลายโรค และยาบางชนิด เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาระบาย หรือยาลดความดันบางกลุ่ม อาจเพิ่มการสูญเสียน้ำและเกลือแร่
3. การประเมินภาวะขาดน้ำในผู้สูงอายุ
การประเมินภาวะขาดน้ำในผู้สูงอายุทำได้ยากกว่าคนทั่วไป เนื่องจากลักษณะผิวหนังเปลี่ยนแปลงตามวัย เช่น ผิวแห้งหรือหย่อนคล้อย แม้ไม่มีการสูญเสียน้ำจริง โดยพบว่าชั้นผิว epidermal จะบางลง 10-50% ในช่วงอายุ 30-80 ปี ซึ่งส่งผลต่อการช่วยกักเก็บน้ำในชั้นผิวได้ลดลง
4. แนวทางการดูแลรักษา
การให้สารน้ำทางปาก (oral rehydration therapy, ORT) เป็นแนวทางหลักในการรักษาภาวะขาดน้ำระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยควรเลือก ORS (oral rehydration solution) ตามสูตรมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ที่มีความสมดุลของโซเดียมและกลูโคสเหมาะสม (Na⁺ 75 mmol/L, glucose 75 mmol/L, osmolarity ประมาณ 245 mOsm/L) หรือเกลือแร่ชนิดที่ระบุว่าใช้สำหรับรักษาอาการท้องเสียเพื่อให้ดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ดึงน้ำกลับเข้าสู่ลำไส้ (การดูดซึมของโซเดียมและกลูโคสจะผ่าน SGLT1 transporter ที่ลำไส้เล็ก) แต่ในกรณีที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับสารน้ำทางปากได้ เช่น มีอาการอาเจียนรุนแรง ซึม หรือมีภาวะช็อก ควรรีบส่งต่อโรงพยาบาลเพื่อรับสารน้ำทางหลอดเลือด (intravenous fluids) อย่างเร่งด่วน
ดังนั้นการตระหนักในเรื่องของภาวะขาดน้ำจากอาการท้องเสียหรืออาเจียน โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เป็นปัญหาสำคัญที่ไม่ควรละเลย เนื่องจากอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง การเข้าใจการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายหรือทางสรีรวิทยาของผู้สูงอายุ รวมถึงการประเมินอาการ และการเลือกใช้เกลือแร่ที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง
Image: Freepik
![]() |
ทำความรู้จักกับอินูลิน (Inulin) และประโยชน์ของอินูลินต่อสุขภาพ 1 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
ยารักษาสิว isotretinoin อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
น้ำเกลือแร่สำหรับท้องเสีย: เลือกที่ใช่ ใช้ถูกต้อง 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยาทาภายนอกรักษาโรคเชื้อรา : ยารักษากลากและเกลื้อน 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
อ่านฉลากยาดีๆ มีประโยชน์ 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยากินกับยาฉีด...เลือกชนิดใด 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
อันตรายจากการบริโภควิตามินมากเกิน 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยาคลอโรควิน (chloroquine) กับ โควิด-19 1 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ยาเขียว ยาไทยใช้ได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก… 2 นาทีที่แล้ว |
![]() |
ปัสสาวะเปลี่ยนสีหลังกินยา 2 นาทีที่แล้ว |
![]() ![]() |
|
ที่เกี่ยวข้อง
หน่วยงานภายในคณะฯ
HTML5 Bootstrap Font Awesome