การรักษาแผลเป็นโดยการใช้สารสกัดจากหัวหอม
อาจารย์ ดร.ภก. สุเมธ จงรุจิโรจน์ ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล |
|
31,920 ครั้ง เมื่อ 5 ช.ม.ที่แล้ว | |
2016-09-30 |
เมื่อเกิดแผลขึ้นตามร่างกาย เช่น มีดบาด หกล้ม แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก แผลผ่าตัด แผลสิว แผลจากโรคอีสุกอีใส ทำให้เกิดการฉีกขาดของเนื้อเยื่อ ร่างกายจะมีกระบวนการในการรักษาตัวเอง เช่น การอักเสบ การสร้างเนื้อเยื่อและคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ทดแทนส่วนที่ถูกทำลายไป โดยจะไฟโบรบลาส (fibroblast) ถูกสร้างขึ้นในส่วนของ extracellular matrix molecules (ECM) เกิดการซ่อมแซม สร้างและจัดเรียงโครงสร้างของผิวหนัง การสร้างเส้นเลือดใหม่ ซึ่งจะทิ้งรอยแผลจางๆไว้ อาจเป็นสีน้ำตาล แดงหรือชมพู และนูนเล็กน้อย แต่เมื่อปล่อยทิ้งไว้สีก็จะจาง แบนลงจนหายไปได้เองใช้เวลา 1-2 ปี หรือนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับความรุนแรงของบาดแผล การฉีดขาดของเนื้อเยื่อมากน้อยเพียงใด และการดูแลรักษาความสะอาดของแผล แต่ถ้าเกิดความผิดปกติ เช่น การสร้างเนื้อเยื่อมากเกินไปทำให้รอยแผลไม่หายไปก็จะเรียกว่า แผลเป็น ซึ่งจำแนกออกเป็น
กระบวนการการสร้างเนื้อเยื่อเพื่อรักษาบาดแผลเกี่ยวข้องกับการสร้างโปรตีนต่างๆ เช่น คอลลาเจน เจลาติน และโปรทีโอไกลแคนที่อยู่ใน ECM ในชั้นของเนื้อเยื่อ ซึ่งมีกลุ่มเอนไซม์ matrix metalloproteinases (MMPs) ทำหน้าที่เป็นตัวสร้างสารต่างๆ ในกระบวนการรักษาบาดแผล (รูปที่ 1) โดยการอักเสบและการเกิดแผลจะเป็นตัวกระตุ้นให้เซลล์สร้าง MMPs ออกมาอยู่ในรูปของ Pro-MMPs และจะต้องมีเอนไซม์ protease มาย่อยอีกทีเพื่อให้สามารถทำงานได้ นอกจากนี้จะมี tissue inhibitors of metalloproteinases (TIMPs) ทำหน้าที่เป็นตัวยับยั้งการทำงานของ MMPs ได้ด้วย จะเห็นได้ว่าการทำงานของ MMPs เป็นสิ่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการรักษาแผล ถ้ามีการทำงานมากเกินไป นานเกินไปก็จะเกิดแผลเป็น ปัจจุบัน พบ MMPs ทั้งหมด 28 ชนิดแต่ทราบหน้าที่แค่บางชนิด เช่น MMPs-1, MMPs-8 และ MMPs-13 เกี่ยวข้องกับการสร้างคอลลาเจน MMPs-2 และ MMPs-9 เกี่ยวข้องกับการสร้างเจลลาติน เป็นต้น
ในปัจจุบันการรักษาแผลเป็นโดยการทายาเป็นการรักษที่ทำได้ง่ายไม่ยุ่งยากเหมือนการผ่าตัดตกแต่งผิวหนัง ยาที่ใช้ทา เช่น สาร imiquimod, mitomycin C หรือสารจากพืช เช่น ชาเขียว ว่านหางจระเข้ วิตามินอี การใช้สารสกัดจากหัวหอมก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง จากการศึกษาพบว่าสารสกัดจากหัวหอมประกอบด้วยสารกลุ่ม phenolic มีฤทธิ์เป็น anti-oxidant และ anti-inflammatory ซึ่งจะมีผลต่อการสร้างเนื้อเยื่อ และจากการศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดจากหัวหอมในการรักษาแผลเป็นพบว่าสารสกัดจากหัวหอมสามารถลดการสร้างไฟโบรบลาสในกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อได้โดยกระตุ้นการทำงานของ MMPs-1 และยังเกี่ยวข้องกับกระบวนการ ECM remodeling อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามการรักษาแผลเป็นโดยการใช้ยาทายังไม่มีการรายงานว่าสารใดสามารถรักษาแผลเป็นให้หายได้แน่นอน ทั้งนี้การรักษาแผลเป็นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีในการรักษาแผลเป็นที่เหมาะสม
![]() |
ยาแก้วิงเวียน ระวัง! อย่าใช้พร่ำเพรื่อ 2 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
“ตดหมูตดหมา” เพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้จริงหรือ? 2 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
โกโก้กับช็อกโกแลตวาเลนไทน์ 5 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
น้ำมันระเหยยากที่ใช้ในเครื่องสำอาง 16 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
น้ำมันหอมระเหย...ชีวิตนี้ขาดเธอไม่ได้ 16 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
เทคนิคป้อนยาสุนัขและแมวที่ไม่ยากอย่างที่คิด 17 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
มะเร็งยูเวีย หรือมะเร็งผนังลูกตาชั้นกลาง 28 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
ยารักษาโรคเชื้อราที่เล็บ 30 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
ยารักษาโรคกระดูกพรุน...เหตุใดจึงกินหลังตื่นตอนเช้าโดยกลืนยาทั้งเม็ดพร้อมน้ำเปล่า? 47 วินาทีที่แล้ว |
![]() |
เภสัชพันธุศาสตร์ ศาสตร์ใหม่ในการรักษาโรค (Pharmacogenetics and Pharmacogenomics) 1 นาทีที่แล้ว |
![]() ![]() |
|
ที่เกี่ยวข้อง
หน่วยงานภายในคณะฯ
HTML5 Bootstrap Font Awesome