อ่านแล้ว 2,626 ครั้ง
ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2555
รองศาสตราจารย์ ดร.นพมาศ สุนทรเจริญนนท์ อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชวินิจฉัย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะที่ปรึกษาโครงการสมุนไพร ภายใต้การสนับสนุนของกองทุน FTA พร้อมด้วยนายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “AEC อาเซียนเปลี่ยนโลก” เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2555 ณ กระทรวงพาณิชย์
ในงานดังกล่าว ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “การก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 นับเป็นโอกาสสำคัญที่นักธุรกิจไทยและผู้เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจและการค้า จะได้พัฒนาศักยภาพทางธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการแข่งขันทางการค้า และปรับปรุงพัฒนาเทคโนโลยี รวมทั้งนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่สินค้าและบริการของไทยให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น ดังนั้น นักธุรกิจ และนักลงทุนไทย จึงต้องมีแผนการทำงานที่สมบูรณ์ทั้งเกมรับและเกมรุก ซึ่งคุณจะพบกับทุกคำตอบ จากการให้คำแนะนำและบริการแบบ One – Stop Service ภายในงานนี้”
ในส่วนรายละเอียดของงาน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์บทบาทและภารกิจที่สำคัญของกรมการค้าต่างประเทศในด้านการอำนวยความสะดวกและรักษาผลประโยชน์ทางการค้าของประเทศ ตลอดจนให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและสาธารณชนทั่วไปได้รับรู้และเตรียมความพร้อมในการก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community) อาทิ การจัดนิทรรศการเชิงความรู้ การเสวนาเกี่ยวกับการปรับตัวของภาคธุรกิจเพื่อรองรับ AEC โดยนักธุรกิจชั้นนำของไทย การจัดคลินิกให้คำปรึกษาแนะนำเกี่ยวกับการค้าการลงทุนใน AEC การออกร้านแสดงสินค้าของประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ เป็นต้น
ด้าน รศ.ดร.นพมาศ สุนทรเจริญนนท์ ที่ปรึกษาโครงการสมุนไพร ได้กล่าวสนับสนุนถึงการเตรียมความพร้อมของนักธุรกิจไทยว่า “ในฐานะที่ปรึกษาของโครงการสมุนไพรไทย ที่ได้รับทุนวิจัยจากกองทุน FTA ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีที่จะนำเสนอในด้านการตั้งรับ AEC เพราะในขณะนี้เรามีความคืบหน้าของการทำงานในการแก้ปัญหามาตรฐานทั้งในระดับประเทศและตลาดสากลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในสมุนไพรไทย โดยการจัดระบบห่วงโซ่อุปทานอุตสาหกรรมสมุนไพรไทย การพัฒนาผู้ประกอบการ ในอุตสาหกรรมผลิตยาสมุนไพรไทยให้มีขีดความสามารถทางการแข่งขันสูงขึ้น และที่ประสบความสำเร็จอย่างมากตอนนี้คือการอบรมให้แพทย์แผนปัจจุบันเชื่อมั่นในยาสมุนไพรไทยมากขึ้น ซึ่งผลสำเร็จที่ได้จะนำมาเสนอผ่านการสัมมนาในงานนี้เช่นกัน จึงอยากให้ผู้ประกอบการได้เข้าร่วมรับฟัง พร้อมกันนี้จะมีการออกร้านของภาคเอกชนในอุตสาหกรรมยาสมุนไพร และเครื่องสำอางสมุนไพร ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สมุนไพรซึ่งผลิตโดยโรงงานที่ได้รับคุณภาพมาตรฐาน GMP และทางคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จะจัดสวนสมุนไพรให้ความรู้เกี่ยวกับชนิดของเครื่องยาในตำรับยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ตัวอย่างเช่น ตำรับยาหอม ตำรับยาจันทน์ลีลา ตำรับยาแก้ไข้ห้าราก ตำรับยาเหลืองปิดสมุทร เป็นต้น
รศ.ดร.นพมาศ ยังได้กล่าวทิ้งท้ายเอาไว้อีกว่า “ในฐานะที่ปรึกษาโครงการฯ และเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมยาสมุนไพรในครั้งนี้ ต้องขอขอบพระคุณ กองทุน FTA กระทรวงพาณิชย์ ที่สนับสนุนทุนเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยาสมุนไพรให้มีขีดความสามารถที่จะสู้กับอาเซียนได้ เพราะประเทศของเรามีทรัพยากรธรรมชาติมากเพียงพอต่อการผลิตยาสมุนไพรสำหรับใช้เอง โดยไม่ต้องพึ่งพายาแผนปัจจุบันซึ่งต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก จึงถือได้ว่าอุตสาหกรรมสมุนไพรเป็นหน่วยงานที่เปลี่ยนทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดเศรษฐกิจของชาติ และเป็นการพึ่งพาตนเองทางด้านสุขภาพ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างงานให้กับคนไทยตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และการที่เราร่วมมือร่วมใจใช้ยาสมุนไพรจะเป็นการดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชาติให้มีการสืบทอดต่อไป”
นายมนัส สร้อยพลอย อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศกล่าวสรุปในตอนท้ายว่า “งานนี้ถือเป็นความมุ่งมั่นของภาครัฐที่จะเร่งส่งเสริมและพัฒนาในด้านการบริหารจัดการ และเตรียมความพร้อมให้ในทุกเน รวมทั้งจะทำให้คนไทย เข้าใจใน AEC มากขึ้น นักธุรกิจไทยและประชาชนทั่วไปจึงไม่ควรพลาด และขอเชิญชวนผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจ เข้าร่วมงาน “7 ทศวรรษกรมการค้าต่างประเทศ นำพาการค้าไทยสู่ AEC ในวันที่ 26 -28 กรกฎาคม นี้ ณ Royal Paragon Hall Exhibition & Convention Center ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน”
Photo Gallery