| 54 ครั้ง 1 สิงหาคม 2568 |
เมื่อวันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 - 16.00 น. หน่วยวิจัยเพื่อการวิเคราะห์อภิมานและสังเคราะห์หลักฐานเชิงประจักษ์สำหรับการดูแลสุขภาพแบบดั้งเดิมและทางเลือก คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ หัวข้อ การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์อภิมาน (Systematic review and meta-analysis workshop) ณ ห้องประชุม 409 อาคารราชรัตน์ โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร. ภญ.มัลลิกา ชมนาวัง รองคณบดีฝ่ายบริหารนวัตกรรมและธุรกิจสัมพันธ์ คณะเภสัชศาสตร์ ม.มหิดล และ รองศาสตราจารย์ ดร.ชลัท ศานติวรางคณา ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ ม.มหิดล กล่าวเปิดงานผ่านระบบออนไลน์
การประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าวประกอบด้วยการบรรยายในหัวข้อต่างๆ อาทิ หัวข้อ Systematic searching & study selection โดย อาจารย์ ภก.ธนพัฒน์ ชัยะโสตถิ หัวข้อ Data extraction โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ภญ.ธนิกา ปฐมวิชัยวัฒน์ หัวข้อ Risk of bias assessment โดย อาจารย์ ภญ.ปุณยวีร์ พืชสะกะ หัวข้อ Meta-analysis โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ภญ.วิภารักษ์ รัตนวิภานนท์ และ หัวข้อ GRADE โดย อาจารย์ ภก.ธนพัฒน์ ชัยะโสตถิ
กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการและกระบวนการของการทบทวนอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์อภิมาน เพื่อพัฒนาทักษะการออกแบบคำถามวิจัย การค้นหาข้อมูลอย่างเป็นระบบ และการประเมินคุณภาพของงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับโภชนาการ และเพื่อส่งเสริมให้นักกำหนดอาหารสามารถสังเคราะห์หลักฐานทางวิชาการได้อย่างเป็นระบบ และนำไปใช้พัฒนาข้อเสนอแนะทางโภชนาการหรือแนวทางเวชปฏิบัติที่อิงหลักฐาน (evidence-based practice) โดยมีคณาจารย์ นักวิจัย และบุคลากรของทั้งสองส่วนงานกว่า 40 คน เข้าร่วมการฝึกอบรมที่คณะฯ และผ่านระบบออนไลน์
นอกจากนี้ การประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าวยังสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) เป้าหมายที่ 17 “การสร้างความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน” (Partnerships for the Goals) ผ่านการส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการระหว่าง คณะเภสัชศาสตร์ และ สถาบันโภชนาการ โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร นักโภชนาการ และผู้ปฏิบัติงานด้านสุขภาพให้สามารถประเมิน วิเคราะห์ และสังเคราะห์หลักฐานทางวิชาการได้อย่างเป็นระบบ ทั้งยังสามารถประยุกต์ใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ในการวางแนวทางเวชปฏิบัติด้านโภชนาการอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับบริบทของสังคมไทยและประชาชน
