Acyclovir, Valacyclovir in First Trimester Not Linked to Major Birth Defects

มีรายงานจากการศึกษา Cohort Study ถึงความสัมพันธ์ของการใช้ยา acyclovir หรือ valacyclovir ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ว่า ไม่มีความสัมพันธ์กันของการเกิดความผิดปกติของทารกกับการใช้ยาดังกล่าว โดยการศึกษาดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ยา acyclovir, valacyclovir, และ famciclovir กับความผิดปกติในการตั้งครรภ์ในช่วงไตรมาสแรก โดยเป็นการเก็บข้อมูลจากทารกที่เกิดในประเทศ Denmark ทั้งหมด 837,795 ราย ระหว่างเดือนมกราคม 1996 จนถึง เดือนกันยายน 2008 โดยทารกที่มีความผิดปกติทางด้าน Chromosome, genetic syndromes หรือความผิดปกติอื่น ๆ ที่มีสาเหตุแน่ชัด รวมทั้งทารกที่มีการติดเชื้อไวรัส จะถูกคัดออกจากการวิจัยนี้

ข้อมูลที่ได้จากทารกที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีความผิดปกติจะถูกนำมาวิเคราะห์ โดย Study endpoint ของการศึกษานี้คือ Prevalence odds ratios ของทารกที่มีความผิดปกติภายในระยะเวลา 1 ปีหลังจากคลอด กับการใช้ยา Antiviral ดังกล่าวข้างต้น ผลจากการวิเคราะห์พบว่า 2.2% ของมารดาที่มีการใช้ยา acyclovir, valacyclovir, หรือfamciclovir ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ คลอดทารกที่เกิดความผิดปกติ ขณะที่ 2.4% ของมารดาที่ไม่ได้มีการใช้ยาพบว่ามีทารกที่เกิดความผิดปกติเช่นกัน โดยมีค่า Prevalence odds ratios เป็น 0.89 (0.65 - 1.22)

ข้อจำกัดของการศึกษานี้คือ ไม่ติดตามความผิดปกติของทารกที่อาจเกิดขึ้นหลังจากคลอดไปแล้ว 1 ปี ข้อมูลไม่ได้รวมถึงการแท้งที่ผิดปกติ ไม่มีการประเมินเรื่อง Comorbidity อื่น ๆ ที่อาจเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดที่สำคัญในเรื่องที่ไม่ได้มีการประเมิน compliance ของการใช้ยาว่าแท้จริงแล้ว ผู้ป่วยมีการใช้ยานั้นจริงหรือไม่ ทำให้ในกรณีที่ทารกเกิดความผิดปกติ การใช้ยาจึงเป็นสาเหตุที่ไม่สามารถตัดออกไปได้

ผู้วิจัยได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการศึกษานี้ว่า การใช้ยา Acyclovir สำหรับการรักษา Herpes viral infection ในผู้ป่วยที่มีการตั้งครรภ์นั้นมีความปลอดภัย ส่วนยา antivirals อื่น ๆ เช่น Valacyclovir และ Famciclovir ยังต้องการศึกษาที่ชัดเจนเพิ่มเติมต่อไป