Infliximab Is Superior to Conventional DMARDs in Patients with Early RA

สำหรับการรักษาข้ออักเสบรูมาตอยด์(rheumatoid arthritis; RA) ด้วย methotrexate ร่วมกับยาที่เป็น disease-modifying antirheumatic drugs (DMARDs เช่น sulfasalazine และ hydroxychloroquine, cyclosporine) หรือยาที่เป็น tumor necrosis factor antagonists (TNF antagonists เช่น infliximab, etanercept) พบว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าการใช้ methotrexate อย่างเดียว แต่ในผู้ป่วยบางรายที่เป็น RA ในระยะแรกจะตอบสนองดีต่อ methotrexate อย่างเดียว และ ลำดับการใช้ยาที่เหมาะสมก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

ผู้ทำการศึกษาชาวสวีเดน(การศึกษาได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตยา infliximab) ได้ให้ยา methotrexate monotherapy เป็นเวลา 3-4 เดือนแก่ผู้ป่วย 487 คน ที่เพิ่งได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น RA โดยผู้ป่วย 145 คน (30%) มีการตอบสนองต่อยาที่ดี(ประเมินด้วย standard criteria) ส่วนผู้ป่วยที่ทนต่อยา methotrexate ได้แต่การตอบสนองยังไม่ดีจะได้รับการสุ่มให้กินยา sulfasalazine plus hydroxychloroquine หรือ ฉีด infliximab แบบ intermittent ทางหลอดเลือดดำ เป็นระยะเวลา 24 เดือน

จากการวิเคราะห์ในขั้นต้น พบว่า 25% ของผู้ป่วยในกลุ่มที่ได้รับ conventional DMARD มีการตอบสนองที่ดีต่อยาที่ 6, 9 และ 12 เดือน ในขณะที่สัดส่วนของผู้ป่วยที่ได้รับ infliximab จะค่อยๆเพิ่มขึ้นจาก 25% ที่เดือนที่6 เป็น 39% ที่เดือนที่ 12 ซึ่งความแตกต่างที่เวลา 1 ปีของการรักษานั้นมีนัยสำคัญทางสถิติ

การวิเคราะห์ในขั้นต้นนี้ แสดงให้เห็นว่า biologic agent เช่น infliximab มีประสิทธิภาพเหนือกว่า methotrexate (conventional DMARD) แต่ประโยชน์ในระยะยาวนั้นยังไม่แน่ชัด