การใช้ Voglibose ในการป้องกันการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2

มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่าการใช้ยา voglibose ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายอาจช่วยในการป้องกันการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในผู้ป่วยที่มีภาวะ impaired glucose tolerance (IGT) โดยอ้างอิงจากการศึกษาแบบ RCT มีผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมด 1,780 คน ผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมดเป็นชาวญี่ปุ่นและมีภาวะ IGT ได้รับการรักษาโดยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ผู้เข้าร่วมการศึกษาจะได้รับการสุ่มแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกได้รับยา voglibose ในขนาด 0.2 มิลลิกรัม วันละ 3 ครั้ง และกลุ่มควบคุมได้รับยาหลอก ผลการศึกษาที่ต้องการวัดผล คือ การเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และการมีระดับน้ำตาลในเลือดปกติ ในระยะเวลาอย่างน้อย 3 ปีหลังจากเริ่มการศึกษา ผลการศึกษาที่ระยะเวลาเฉลี่ย 48.1 สัปดาห์ พบว่าผู้เข้าร่วมการศึกษาที่ได้รับยา voglibose มีความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 น้อยกว่าผู้เข้าร่วมการศึกษาที่ได้รับยาหลอก ร้อยละ 40 (p=0.0014) นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมการศึกษาในกลุ่มที่ได้รับยา voglibose มีสัดส่วนของผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดเป็นปกติมากกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอก (p<0.0001) สำหรับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (adverse event) ที่เกิดขึ้นนั้นพบว่าผู้เข้าร่วมการศึกษาในกลุ่มที่ได้รับยา voglibose และกลุ่มควบคุมเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ร้อยละ 90 และร้อยละ 85 ตามลำดับ เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่พบได้บ่อยในกลุ่มผู้ที่ได้รับยา voglibose เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม คือ อาการทางระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ ท้องเสีย ท้องผูก ปวดท้อง แน่นท้อง เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ระดับรุนแรงที่พบในกลุ่มผู้ที่ได้รับยา voglibose ได้แก่ ถุงน้ำดีอักเสบ (1 ราย), ติ่งเนื้อบริเวณลำไส้ใหญ่(1 ราย), เนื้องอกบริเวณลำไส้ตรง (1 ราย), ไส้เลื่อน (1 ราย), ตับมีทำงานผิดปกติ (1 ราย) และการเกิดเลือดออกในเยื่อหุ้มสมอง (1 ราย) สำหรับเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ระดับรุนแรงที่พบในกลุ่มควบคุม ได้แก่ ถุงน้ำดีอักเสบ (1 ราย) และภาวะสมองขาดเลือด (1 ราย) ดังนั้นการใช้ยา voglibose ร่วมกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกายสามารถช่วยลดการเป็นเบาหวานชนิดที่สองในผู้ที่มีภาวะ IGT ชาวญี่ปุ่นได้

Reference:http://www.medscape.com/viewarticle/701751



Kawamori R, Tajima N, Iwamoto Y, Kashiwagi A, Shimamoto K, Kaku K, et al. voglibose for prevention of type 2 diabetes mellitus:a randomized, double-blind trial in Japanese individuals with impaired glucose tolerance. Lancet 2009.