ยาต้านการแข็งตัวของเลือดตัวใหม่ “Apixaban” เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ป่วยatrial-fibrillation ที่มีภาวะไตบกพร่องร่วมด้วย

ในกลุ่มผู้ป่วยatrial-fibrillation ที่มีภาวะไตบกพร่องและได้รับยาต้านการแข็งตัวของเลือด จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหลอดเลือดอุดตันและภาวะเลือดออกสูงกว่าผู้ที่ไม่มีโรคไตร่วมด้วย ดังนั้นยาต้านการแข็งตัวของเลือดตัวใหม่ Apixaban ซึ่งขับออกทางไตเพียงบางส่วน น่าจะเหมาะกับผู้ป่วยกลุ่มนี้ ข้อสรุปนี้เป็นผลจากการศึกษา ARISTOTLE โดยStefan H. Hohnloser จากมหาวิทยาลัย JW Goethe ประเทศเยอรมัน และคณะ ซึ่งทำการศึกษาเปรียบเทียบผลของยา Aprixaban กับยา warfarin ในการลดอัตราการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง(stroke) ภาวะเลือดออก(bleeding) และการเสียชีวิต ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีความบกพร่องทางไต โดยประเมินค่า GFR จากสมการ Cockcroft–Gault, Chronic Kidney Disease Epidemiology Collaboration (CKD-EPI) และ cystatin C measurements ผลการศึกษาพบว่า มีผู้ป่วยที่ไม่มีภาวะบกพร่องทางไต (eGFR >80 mL/min) ผู้ที่มี eGFR ระหว่าง80-50 mL/min และมี eGFR <50 mL/min คิดเป็นร้อยละ 42, 42 และ 15 ตามลำดับ อัตราการเกิดความผิดปกติของระบบหัวใจและหลอดเลือดและภาวะเลือดออก พบได้มากในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะบกพร่องทางไต(eGFR <80 mL/min) ยาapixabanมีประสิทธิภาพมากกว่ายา warfarin ในการป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง ภาวะลิ่มเลือดอุดตัน(systemic embolism) และลดอัตราการเสียชีวิตได้โดยไม่มีคำนึงถึงการทำงานที่บกพร่องของไต และยาapixaban ยังเกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะเลือดออกที่น้อยกว่า โดยเฉพาะกลุ่มที่มี eGFR <50 mL/min ค่า hazard ratio (HR) 0.50 (95% confidence interval (CI) 0.38–0.66) แต่อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษานี้อาจจะยังไม่ครอบคลุมถึงผู้ป่วยที่มีภาวะบกพร่องทางไตที่รุนแรง(eGFR <30 mL/min) เนื่องจากในการศึกษามีกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะนี้เพียงร้อยละ 1.5 จึงควรระวังในการนำผลการศึกษานี้ไปใช้