ใบสั่งยาในร้านขายยา

โดย: จารุวรรณ ทับประเสริฐ,นวรัตน์ อมรชีวิน    ปีการศึกษา: 2537    กลุ่มที่: 7

อาจารย์ที่ปรึกษา: เฉลิมศรี ภุมมางกูร , ปราณี ใจอาจ    ภาควิชา: ภาควิชาเภสัชกรรม

Keyword: ใบสั่งยา , ร้านขายยา ,อาการโรค , ยาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบ,
บทคัดย่อ:
ปัจจุบันนี้ โรงพยาบาลของรัฐบาล ไม่สามารถให้บริการแก่ประชาชนได้ทั่วถีงและรวดเร็วตามความต้องการของประชาชน เนื่องเพราะมีผู้มาใช้บริการเป็นจำนวนมากขึ้น ทำให้เกิดความล่าช้าในการจ่ายยาได้ บางครั้งผู้ป่วยได้นำใบสั่งยาจากโรงพยาบาลออกไปซื้อยาจากร้านขายยานอกโรงพยาบาล ดังนั้นเภสัชกรในร้านขายยาสามารถทำหน้าที่ในการจ่ายยาตามใบสั่งยาได้เต็มภาคภูมิ จึงน่าจะศึกษาถีงจำนวนใบสั่งยาต่อวัน ประเภทของยา ลักษณะอาการของโรค ตลอดจนปัญหาจากใบสั่งยาเพื่อนำไปสู่หลักการแก้ไขต่อไป ได้ศึกษาร้านขายยา 3 แห่ง คือ ร้านขายยาหน้าโรงพยาบาลจุฬาฯ(ร้านขายยา ก.) ร้านขายยาหน้าโรงพยาบาลราชวิถี (ร้านขายยา ข.) และร้านขายยาหน้าโรงพยาบาลศิริราช (ร้านขายยา ค.) ระยะเวลาที่ใช้ทำการศึกษาคือ 27 เมษายน ถึง 27 กรกฏาคม 2537 รวม 91 วัน ผลการศึกษาพบว่า ใบสั่งยาทั้งหมด 486ใบ เฉลี่ยวันละ 7 ใบในเดือนแรก (27 เมษายน ถึง 31 พฤษภาคม 2537) ส่วนเดือนที่สอง ได้รับใบสั่งยาเฉลี่ยวันละ 4 ใบ (1-30 มิถุนายน 2537) ส่วนเดือนที่สาม ได้รับใบสั่งยาเฉลี่ยวันละ 4 ใบ (1-27 กรกฏาคม 2537) เมื่อวิเคราะห์อาการและโรคของผู้ป่วยจากใบสั่งยาแต่ละใบพบว่า ผู้ป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารมากที่สุด และรองลงมาเป็นโรคเกี่ยวกับระบบประสาทส่วนกลางและสมอง คิดเป็นร้อยละ 12.76 และ 12.35 ตามลำดับ ที่พบน้อยที่สุด คือ โรคที่เกี่ยวกับระบบเลือด ซึ่งพบเพียงร้อยละ 1.23 เท่านั้น ประเภทของยาที่แพทย์สั่งจ่ายให้แก่ผู้ป่วยมากที่สุด คือ ยาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบ (Analgesic and Antiinflamatory agent) คิดเป็นร้อยละ 12.05 รองลงมาคือยาที่ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลางและสมอง ซึ่งมีปริมาณเท่ากับยาที่ใข้ในโรคระบบทางเดินอาหาร คือ ร้อยละ11.53 และยาที่ใช้ในโรคระบบทางเดินอาหาร คือ H2-Antagonist คิดเป็นร้อยละ 13.48 รองลงมาคือ Antacid,Parasite Infection,Antiemetic คิดเป็นร้อยละ 8.99 ปัญหาที่พบบ่อยที่สุด คือ ปัญหาที่เกิดจากการอ่านใบสั่งยาไม่ออก ไม่ชัดเจนซึ่งพบประมาณร้อยละ 20.5 สรุปผลการศึกษา ร้านขายยารับใบสั่งยาเฉลี่ยต่อวันมากที่สุดในช่วงเวลา 27-31 เมษายน 2537 เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว ผู้ศึกษาโครงการพิเศษได้ไปเก็บรวบรวมใบสั่งยาด้วยตนเอง จึงสามารถเก็บใบสั่งยาได้จำนวนมากและถูกต้องตามความเป็นจริง และปัญหาความไม่ชัดเจนของใบสั่งยาเป็นสิ่งที่ต้องหาทางแก้ไขต่อไป
abstract:
.