การศึกษาปัจจัยเสี่ยงของการเกิด Febrile neutropenia ของผู้ป่วยอายุรกรรมที่ได้รับการรักษาโดยวิธีเคมีบำบัด โรงพยาบาลศิริราช |
| โดย: วราภรณ์ สุวรรณกูฏ,สุจิตรา เยาว์พฤกษ์ชัย
ปีการศึกษา: 2545 กลุ่มที่: 36 อาจารย์ที่ปรึกษา: ปรีชา มนทกานติกุล , ปราโมทย์ ตระกูลเพียรกิจ ภาควิชา: ภาควิชาเภสัชกรรม Keyword: ปัจจัยเสี่ยง, febrile neutropenia, เคมีบำบัด, มะเร็ง, risk factor, febrile neutropenia, chemotherapy, cancer |
| บทคัดย่อ: งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยเสี่ยงที่มีผลต่อการเกิด febrile neutropenia ของผู้ป่วยอายุรกรรมที่ได้รับการรักษาโดยวิธีเคมีบำบัด โรงพยาบาลศิริราช โดยเป็นงานวิจัยแบบย้อนหลังทำการเก็บข้อมูลจากเวชระเบียนผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาโดยวิธีเคมีบำบัด ในช่วงเดือนมกราคม-ธันวาคม พ.ศ. 2544 จำนวน 94 คน พบว่าเป็นชาย 47 คน (ร้อยละ 50) และหญิง 47 คน (ร้อยละ 50) มีผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 30 ปี จำนวน 24 คน (ร้อยละ 25.53) โดยมีอายุเฉลี่ยเป็น 20.5 ® 5.63 ปี และผู้ป่วยอายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 22 คน (ร้อยละ 23.40) โดยมีอายุเฉลี่ยเป็น 68.23 +- 4.93 ปี ซึ่งผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งชนิด acute lymphocytic leukemia (ALL) จำนวน 21 คน (ร้อยละ 22.34) และ non-Hodgkin’s lymphoma (NHL) จำนวน 20 คน (ร้อยละ 21.28 ) โดย doxorubicin, cyclophosphamide และ vincristine ถูกใช้ในการรักษามากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 74.47,51.06 และ 51.06 ตามลำดับ โดยมีการใช้ยาตามขนาดที่แนะนำร้อยละ 79.66 ซึ่งจากประวัติพบว่าผู้ป่วยไม่เคยเป็น neutropenia มาก่อน 58 คน (ร้อยละ 61.70) แต่มีประวัติการได้รับการรักษาโดยวิธีเคมีบำบัดหรือการฉายรังสี 78 คน (ร้อยละ 82.98) ดังนั้นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิด febrile neutropenia คือ อายุ, ชนิดมะเร็ง, ชนิดของยาที่ใช้รักษา และประวัติการได้รับการรักษาโดยวิธีเคมีบำบัดหรือการฉายรังสี |
| abstract: The objective of this study was to determine risk factors of febrile neutropenia in medical patients treated with chemotherapy at Siriraj Hospital by retrospectively chart review during January to December 2001. Ninety-four patients were included in this study. There was 47 males (50%) and 47 females (50%). Twenty-four patients were under 30 year-old (25.53%) and twenty-two patients were over 60 year-old (23.40%). Twenty-one patients (22.34%) were diagnosed as acute lymphocytic leukemia (ALL) and twenty patients (21.28%) were diagnosed as non-Hodgkin’s lymphoma (NHL). Doxorubicin, cyclophosphamide and vincristine were used in most of the patients (74.47%, 51.06% and 51.06% respectively). About 79.66% of the patients were given within the recommended dosage regimen. Fifty-eight patients (61.70%) had no history of preexisting neutropenia but seventy-eight patients (82.98%) had prior history of chemotherapy or radiation therapy. In conclusion, patients at higher risk of febrile neutropenia-associated cancer chemotherapy may include age, type of cancer, type of chemotherapy and prior chemotherapy or radiation therapy. |
| . |